หรือจะถึงเวลาที่ต้องบอกลา พีที ประจวบ เอฟซี
เกือบจะผ่านครึ่งฤดูกาลของศึก รีโว่ ไทยลีก 2023/24 กันแล้ว กับโปรแกรม 13 นัดที่ผ่านมา ต้องบอกว่าปีนี้ค่อนข้างจะสูสีกันผลแพ้ชนะเพียงนัดเดียวก็ทำให้อันดับขยับกันได้ แต่เราจะมาดูทีมที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง จนจมบ๊วยอยู่ในเวลานี้กับ ‘ต่อพิฆาต’
พีที ประจวบ เอฟซี แข่งไป 12 นัด เก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นนัดแรกของฤดูกาลเหนือ ราชบุรี เอฟซี 1-0 หลังจากนั้นอีก 11 นัด พวกเขาเสมอ 3แพ้ 8 และในเวลานี้ ประจวบ แพ้มา 5 นัดติดต่อกันแล้ว จนคะแนนห่างจากอันดับ 13 ที่อยู่เหนือโซนแดง อย่างเมืองทอง ยูไนเต็ด ถึง 8 คะแนน และห่างจากลำพูน วอริเออร์ อันดับ 12 ที่แข่งมากกว่า 1 นัดอยู่ถึง 9 คะแนน
เกิดอะไรขึ้นกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่เคยก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยมาแล้ว 1 สมัย และเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีเงินลงทุนได้อย่างสบายกระเป๋าสโมสรหนึ่งของไทย
ทีมใต้ที่สุดของไทยลีก ก้าวขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดตั้งแต่ปี 2018 สิริรวมเวลาพวกเขาอยู่มา 5 ฤดูกาล ในช่วงแรกพวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จบอันดับ 6 ในฤดูกาลแรกบนลีกสุด ก่อนอันดับจะค่อย ๆ ต่ำลงเรื่อยในทุก ๆ ฤดูกาล ซึ่งในปีที่แล้วพวกเขาจบด้วยอันดับ 13 มีคะแนนห่างจากทีมตกชั้นเพียง 2 แต้มเท่านั้น
แต่จุดที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการคว้าโทรฟีได้ในฤดูกาล 2019 ในศึก ลีก คัพ ด้วยการชนะการดวลจุดโทษ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนั่นคือความสำเร็จเดียวของพวกเขา
ในปัจจุบันหลายสโมสรในไทยทั้งระดับบน หรือในลีกล่าง ก็ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก เห็นได้ชัดที่สุดอย่างโปลิศ เทโร เอฟซี ที่ไม่ได้รับเงินเดือนมา 4-5 เดือนติดต่อกันแล้ว แต่ไม่ใช่กับ ‘ต่อพิฆาต’ ของ ‘นายกเกียร์’ ที่นั่งเป็นประธานสโมสรอยู่ พวกเขาพร้อมจ่ายเงิน เพื่อดึงนักเตะดีกรีระดับทีมชาติ หรือเคยติดทีมชาติเข้าสู่ทีม พวกเขาไม่เคยมีข่าวเรื่องค้างค่าเหนื่อยนักฟุตบอล หรือมีปัญหาด้านการเงิน และก่อนเปิดฤดูกาลนี้ พวกเขาก็ลงทุนสร้างสนามซ้อมแห่งใหม่ ที่ว่ากันว่าลงทุนราวๆ 10 ล้านบาทเลยทีเดียว
ไปดูกันที่ตัวผู้เล่น จริงๆ แล้ว ประจวบ เอฟซี เสริมทัพได้อย่างน่าสนใจ ตัวต่างชาติในแดนหน้าพวกเขาดึง แดร์เลย์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และสม่ำเสมอกับทั้ง เมืองทอง และราชบุรี มาประสานกับซามูเอล โรซ่า ที่ในฤดูกาลที่แล้วยิงไปถึง 18 ประตู รั้งตำแหน่งรองดาวซัลโวของไทยลีก
แนวรับดึง แอร์ตอน ติราบาสซี่ ที่เป็นตัวหลักของการท่าเรือ มายืนคู่กับ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ ที่เป็นตัวหลักของราชบุรี ในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน บวกกับอิมพอร์ต ฌอน ซาเบตการ์ แนวรับลูกครึ่งอิร่าน สวีเดน ที่เล่นกับเดเกอร์ฟอร์ส สโมสรบนลีกสูงสุดของสวีเดน
ด้านเฮดโค้ชในปีนี้ ประจวบ เลือกกลับมาใช้งาน ‘โค้งวัง’ ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล มานั่งคุมทัพเป็นคำรบที่สอง แต่โค้ชวังก็คุมทีมได้ไม่กี่นัด เปลี่ยนมาเป็นเฮดโค้ชประสบการณ์สูงอย่าง โยชิดาร์ บันโดวิช ที่เคยพาบุรีรัมย์ ได้แชมป์ลีกมาแล้ว 2 สมัย
นักเตะก็ดี โค้ชก็มากประสบการณ์ การเงินก็ไม่เป็นปัญหา แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ พีที ประจวน เอฟซี ที่กราฟอันดับเริ่มตกลงเรื่อยๆ บ้างก็มีเสียงจากแฟนบอลมาว่า บางทีนักเตะอาจจะกินอยู่สบายเกินไป จนขาดแรงกระตุ้นยามลงสนาม บ้างก็ว่าเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงหัวเรืออย่างเฮดโค้ชบ่อยเกินไปจนขาดความสม่ำเสมอ
หรือมีคิดไปถึงว่าการเดินทางจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ค่อนข้างไกล แถมสายการบินก็จำกัด จึงต้องนั่งรถหลายชั่วโมงไปขึ้นเครื่องที่กรุงเทพฯ ยามเล่นเกมเยือน แต่อันนี้ดูจะเป็นเหตุผลที่ไร้สาระ เพราะยามเล่นในบ้านคู่แข่งก็ต้องนั่งรถหลายชั่วโมงเช่นกัน ทีมอย่างตราด เอฟซี ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง ๆ ที่นั่งรถนานไม่ต่างกัน
สุดท้ายต้องรอดูว่าเหล่าผู้บริหารของ ประจวบ จะแก้ปัญหาในฤดูกาลนี้อย่างไร ปลดโค้ช? หรือเสริมทัพเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงเลก 2 ซึ่งจะต้องเห็นผลโดนทันที เพราะเวลาที่เหลือของพวกเขาบนลีกสูงสุดนั้นใกล้จะหมดลงเต็มทน
ไม่งั้นคงจะถึงเวลากลับลงไปเริ่มต้นใหม่ใน ไทยลีก 2 ปีหน้า กับทีมจากแดนสามอ่าว
เขียนโดย The Lite Team.