ในทีแรก ผู้เขียนตั้งใจที่จะกล่าวชื่นชมถึงความสำเร็จในเดือนที่ผ่านมาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่คว้ามาได้ถึง 3 รางวัลจากลีกสูงสุดของอังกฤษ โดยที่ เอริก เทน ฮาก ได้รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ก็ได้จากลูกยิงยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน

แต่ทุกอย่างมันกร่อยไปหมดเลยครับ หลังจากที่พวกเขาเปิดบ้านเจอกับ บอร์นมัธ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และพ่ายแพ้ไปอย่างน่าอับอายด้วยสกอร์ที่ขาดลอยถึง 3-0 ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง

เรื่องน่าบังเอิญที่โผล่ขึ้นมาในหน้าฟีดโซเชียลมีเดียของผมก็คือ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2013 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้วพอดิบพอดี ในสมัยที่ เดวิด มอยส์ เป็นผู้จัดการทีมให้กับ ‘ปีศาจแดง’ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมที่พวกเขาแพ้คาบ้านให้กับ นิวคาสเซิล เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1972 โดยกล่าวเชิงตำหนิลูกทีมของตัวเองเอาไว้ว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเรื่องให้ต้องปรับปรุงอีกหลายเรื่องเลย ทั้งการจ่ายบอล, การสร้างโอกาส และการเล่นเกมรับ”

แน่นอนว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก ๆ ที่ข้อความนี้โผล่มาได้อย่างลงล็อกพอดิบพอดี โดยที่พลพรรค ‘เร้ด เดวิลส์’ ก็ดูจะไม่มีพัฒนาการอะไรเพิ่มเติมจากเมื่อ 10 ปีก่อนเลย แม้ว่าจะเปลี่ยนตัวกุนซือมาแล้วกี่คนก็ตาม

จาก เดวิด มอยส์ ไปสู่ หลุยส์ ฟาน กัล ส่งไม้ต่อไปยัง โชเซ่ มูรินโญ่ ตามมาด้วย โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และมาจนถึงในยุคปัจจุบันกับ เอริก เทน ฮาก พวกเขาเหล่านี้ทำได้เพียงคว้าแชมป์ไม้ประดับสำหรับสโมสรยักษ์ใหญ่อื่น ๆ โดยที่ได้ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, ยูโรป้าลีก 1 สมัย และ ลีกคัพ อีก 2 สมัย

ซึ่งกุนซือที่ได้เอ่ยชื่อมา แต่ละรายก็ได้โอกาสในการคุมทีมในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่ถึง 3 ปีเลยแม้แต่คนเดียว

แล้วยิ่งตอนนี้ กระแสจากแฟนบอลที่เรียกร้องให้มีการปลดเฮดโค้ชชาวดัตช์รายนี้ ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่คำถามก็คือปลดแล้วจะเอาใครมาแทน แล้วจะดีกว่าคนปัจจุบันจริงหรือเปล่า หรือว่าปัญหาของ ยูไนเต็ด มันมีอะไรที่มากกว่าแค่เรื่องของโค้ชหรือไม่ อันนี้ก็ไม่ใครที่จะให้คำตอบได้หรอกครับ

สำหรับมุมมองของผม การที่ให้โอกาส เทน ฮาก ทำงานต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไรเลย ให้เขาได้ทำในสิ่งที่วางเอาไว้จนสุดทางไปเลย จะพังต่อไปอีกสัก 10 ปีก็ช่างมันไป บางสโมสรยังรอการกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาได้ตั้ง 30 ปีเลยครับ 

เขียนโดย Uncle Bear

The Lite Team.