ชวนคุยก่อนเกม: ‘เรือ, ไก่’ จะเรียกฟอร์มกลับมาได้ไหม
สถานการณ์ในตอนนี้ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ดูช่างแตกต่างเหลือเกินกับเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ไม่รู้จะฟื้นคืนกลับสู่ฟอร์มได้ในสัปดาห์นี้เลยหรือไม่
หลังจากที่มีโปรแกรมให้โม่แข้งกันในช่วงกลางสัปดาห์ ก็มีหลายคู่ที่พลิกล็อกกันไป และทำให้อันดับในตารางคะแนนมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เอาล่ะ… มาพูดคุยกันถึงเกมในช่วงสุดสัปดาห์นี้กันดีกว่าครับ
คู่แรกประจำสัปดาห์เป็นของ ลิเวอร์พูล นี่คือขาประจำของโปรแกรมช่วงเที่ยงครึ่งในวันเสาร์ (ตามเวลาประเทศอังกฤษ) โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ลงคุมทีมในเวลาดังกล่าวเป็นเกมที่ 43 เข้าไปแล้ว นับตั้งแต่ที่เจ้าตัวย้ายเข้ามาทำงานในถิ่น เมอร์ซีไซด์
พวกเขามีโปรแกรมบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ที่รั้งอยู่ในอันดับที่ 14 และด้วยฟอร์มการเล่นที่ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ทำให้ ‘หงส์แดง’ มีโอกาสที่จะขึ้นไปแซงเป็นจ่าฝูงชั่วคราวก่อนที่ อาร์เซนอล จะลงเตะเป็นคู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์
เกมต่อมาเป็นเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยทีมของ เอริก เทน ฮาก เตรียมรับมือกับ บอร์นมัธ ที่ไม่แพ้ใครมาแล้ว 4 เกมติดต่อกันในลีก ซึ่งเป็นการคว้าชัยชนะมาได้ถึง 3 เกม
ฟากของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่อาจจะดูกระท่อนกระแท่นมาตั้งแต่ช่วงเปิดฤดูกาล แต่พวกเขาก็รักษามาตรฐานด้วยการรั้งอันดับ 6 เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน โดยที่เข้าใกล้พื้นที่ท็อปโฟร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งห่างจากอันดับ 4 อย่างทีมร่วมเมืองเพียงแค่ 3 คะแนน และมีคะแนนเท่ากับอันดับ 5 อย่าง ท็อตแน่ม อีกด้วย
มายังคู่สุดท้ายของค่ำคืนวันเสาร์ที่จะลงเตะในช่วงเที่ยงคืนครึ่ง ซึ่งถือเป็นเกมที่น่าสนใจมากที่สุดเกมหนึ่งเลยก็ว่าได้ เป็นการพบกันของทีมฟอร์มแรงอย่าง แอสตัน วิลล่า และ อาร์เซนอล
วิลล่า ของ อูไน เอเมรี่ ทำสถิติชนะในบ้านมาแล้ว 14 เกมติดต่อกัน โดยล่าสุดเพิ่งทำช็อกโลกด้วยการเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ มาได้ช่วงกลางสัปดาห์ รวมถึงแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับ 3 ของตารางคะแนน และจะสร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเองขึ้นมาในทันที หากพวกเขาสามารถทำได้อีกครั้งกับการเจอทีมของ มิเกล อาร์เตต้า
แน่นอนว่าทางด้าน ‘ปืนใหญ่’ เองก็ต้องการที่ยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปแบบยาว ๆ เหมือนในฤดูกาลก่อน แต่ว่าจะสามารถต้านทานความร้อนแรงของ ‘สิงห์ผงาด’ เอาไว้ได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง
ข้ามมายังเกมในวันอาทิตย์กันเลยนะครับ เริ่มต้นด้วย เอฟเวอร์ตัน ที่ดีดตัวเองออกมาจากโซนตกชั้นได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากถูกตัดไปถึง 10 คะแนนเมื่อเดือนก่อน และเตรียมที่จะเปิดบ้านเจอกับ เชลซี ครับผม
‘สิงห์บลูส์’ เป็นอีกทีมที่เหนียวแน่นกับอันดับ 10 เป็นอย่างมาก ไม่ยอมขึ้นลงไปไหนเลย ซึ่งทางด้านของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เองก็คงไม่ต้องการให้เป็นอย่างนี้ และพยายามผลักดันทีมให้กลับไปเป็นทีมหัวตารางเหมือนเช่นเคยอีกครั้ง
ต่อมาเป็นคิวของน้องใหม่ ลูตัน ทาวน์ ที่จะต้องเจอของแข็งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ดูแล้วเก็บอาการไม่ชนะมา 4 นัดรวด และเตรียมระเบิดถังขี้ในเกมนี้เป็นแน่แท้ โดยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เองก็คงต้องการที่จะเกาะกลุ่มกับทีมบนหัวตารางต่อไป หลังจากที่ถูก อาร์เซนอล ทิ้งห่างไปแล้วถึง 6 คะแนน
ฟากของ ลูตัน กับฟอร์มการเล่นในบ้านก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเพิ่งจะพ่ายให้กับทีมของ อาร์เตต้า ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายเมื่อช่วงกลางสัปดาห์มาก็ตาม แต่ดูจากสถานการณ์ล่าสุด ก็ไม่รู้จะสู้กับแชมป์เก่าได้มากน้อยเพียงใด ก็รอดูต่อไปละกันครับ
แล้วก็ถึงคู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ เป็นการเจอกันของทีมอันดับ 5 อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และทีมอันดับ 7 อย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
หลังจากที่ อังเก้ ปอสเตโคกลู คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมมาได้ 3 เดือนติด ฟอร์มของ สเปอร์ส ก็รูดกราวลงมาแบบเหลือจะเชื่อเลยครับ โดยที่ไม่ชนะมาแล้วถึง 5 เกมติดต่อกัน ซึ่งพวกเขาขึ้นนำไปก่อน 1-0 ทั้ง 5 เกมนั้นอีกด้วย
ทางด้านของ เอ็ดดี้ ฮาว ก็เจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่ในตอนนี้ และก็ต้องการใช้โอกาสนี้ในการแซงหน้า ท็อตแน่ม ขึ้นไปเข้าใกล้พื้นที่ท็อปโฟร์ให้มากที่สุด แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวผู้เล่นจะพร้อมใช้งานมากน้อยเพียงใด
เอาล่ะครับ… ต้องมารอดูกันว่าสถานการณ์ในตารางคะแนนจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่หลังจากที่จบช่วงสุดสัปดาห์นี้ไปแล้ว และทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ รวมถึง ท็อตแน่ม จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้หรือไม่ ถ้ายังไม่ฟื้น กุนซือบางคนก็อาจจะต้องเสียวสันหลังกันบ้างแล้วล่ะครับ
เขียนโดย Uncle Bear
The Lite Team.