ข้างบ้านเรือใบ: เกิดอะไรขึ้นกับ ‘เรือใบ’ เมื่อเจอบิ๊กแมตซ์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่สามารถเก็บชัยชนะใน พรีเมียรืลีก มา 3 เกมติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2017 แต่สิ่งที่สำคัญคือการที่ทีมเสียถึง 8 ประตู ตลอด 3 เกมที่ผ่านมา ถ้านับรวมกับเกม ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก อีก 2 ลูกแล้วถือว่ามีปัญหาพอสมควรกับแนวรับตอนนี้
อย่างที่เราทราบกันดีว่าช่วงนี้เหมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เกมรุกก็ยิงไม่พักแต่เกมรับก็พร้อมจะเสีย ไม่ว่าจะเป็นเกมที่เจอ เซลซี ที่โดนไปถึง 4 ลูก นัดเจอ ลิเวอร์พูล ก็โดนอีก 1 ประตู และนัดล่าสุดโดน สเปอร์ส ไปอีก 3 ดอก เห็นแล้วปวดหัวกับแนวรับที่ดูผิดฟอร์มไปหมด จนไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ถ้าให้ประเมินจุดที่แตกต่างจากฤดูกาลที่ผ่านมาก็คือตำแหน่งของ จอห์น สโตนส์ ที่ถูกทดแทนด้วย มานูเอล อคานจี ที่ต้องลงมาทำหน้าที่แทนช่วงกองหลังชาวอังกฤษที่ได้รับบาดเจ็บ
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงปวดหัวไม่น้อยที่ต้องให้ กองหลังชาวสวิตเซอร์แลนด์ มารับบทบาทหน้าที่แทน สโตนส์ ซึ่งทำได้ดีเหลือเกินทั้งในหน้าที่กองกลางที่ยืนคู่กับ โรดรี้ และ กองหลังผู้ช่วย รูเบน ดิอาส และแน่นอนว่า เราคงใช้จุดนี้เป็นจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของทีม ณ ตอนนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นมาตลอดคือเกมรุกที่เฉียบคม แต่ช่วงนี้ก็ดูจะไม่คมเหมือนเดิม อาจเป็นเพราะการขาดหายไปของ เควิน เดอ บรอยน์ และ อิคราว กุนโดกัน เรามีความเชื่อว่าถ้าแนวรุกยิงประตูได้มาก แนวรับก็จะไม่กดดัน ถ้าเราสังเกตให้ดี เรามักจะเสียประตูทุกครั้งที่นำเพียงประตูเดียว
หลังจากนี้อย่างที่เคยวิเคราะห์ไว้ว่า แมนฯ ซิตี้ ต้องพยายามประคองทีมให้ยังมีคะแนนไม่ให้ห่างจากจ่าฝูงมากนัก เพื่อรอการกลับมาของ กัปตันทีมอย่าง เดอ บรอยน์ ผู้จะมาเปลี่ยนเกมในแนวรุก และยังสามารถถอย แบร์นาโด้ ซิลวา ลงมาช่วย โรดรี้ ในแดนกลางได้อีก และก็ช่วยกันลุ้นให้ 2 ผู้เล่นใหม่อย่าง มัตเตโอ โควาซิซ และ มาเธอุส นูเนส สามารถเล่นเข้าขากับทีมได้สักที เพราะแดนกลางตอนนี้ดูอ่อนยวบพอสมควร เมื่อเทียบกับในอดีตที่เราเคยมีชุดกองกลางที่ไม่แพ้ใครในยุโรป แต่ปัจจุบันเหมือนจะไม่ใช่
ในฐานะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ต้องบอกว่า พวกเราเซ็งกับผลการแข่งขันที่ผ่านมาพอสมควร แต่ก็หวังเพียงว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสามารถมองเห็นและแก้ปัญหาจุดนี้ให้ได้ เพราะถ้านัดต่อไปเรายังไม่สามารถชนะได้ เราน่าจะสามารถเรียกได้เต็มปากว่า ทีมกำลังเข้าขั้นวิกฤตแล้ว…
เขียนโดย The Lite Team.