อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานของพวกเราไม่ได้เป็นนักเตะ ‘One Man Club’ นั่นก็เป็นเพราะว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เฉดหัวเขากลายๆ เนื่องจากไม่สามารถการันตีตำแหน่งให้กับ ไอคอนของสโมสรคนนี้ได้

จริงอยู่ว่าขณะนั้น ‘กัปตันไดนาโม’ อายุเข้าวัย 35 ปี แต่ด้วยประสบการณ์ที่มี ผมว่าถึงไม่สามารถเป็นตัวหลัก แต่ก็น่าจะมีการเจรจาเพื่อหาทางลงที่ดีกว่านี้ แต่กลายเป็นว่ากุนซือชาวสก็อตแลนด์ กลับเลือกอีกด้าน จนเป็นเหตุให้เส้นทางอาชีพค้าแข้งของนักเตะผู้เป็นที่รัก ต้องแยกทางกันในปี 2015

ล่าสุดทางด้านของ เปเป้ เรน่า ได้ออกมาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ว่าแผนการณ์ของเขาตอนนั้นคือย้ายกลับไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แต่เนื่องจาก วิคเตอร์ บัลเดส ตัดสินใจเฝ้าเสาใน คัมป์ นู ต่อเป็นเหตุให้การย้ายทีมไม่เกิดขึ้น

ทว่า ร็อดเจอร์ส กลับยืนยันที่จะไปดึงนายทวารทีมหนีตกชั้นอย่าง ซิมง มินโญเล่ต์ มาเฝ้าเสาประตูที่ แอนฟิลด์ ให้ได้ ถึงขนาดที่จำยอมปล่อยผู้รักษาประตูมือสองทีมชาติสเปน ดีกรีแชมป์โลก ไปอยู่กับ นาโปลี ด้วยสัญญายืมตัว

ผมเองก็ไม่ได้อยากหมิ่นฝีมือการเซฟของ อดีตนายด่าน ซันเดอร์แลนด์ แต่อย่างไร เพราะเขาก็เซฟให้ ‘หงส์แดง’ ไว้ไม่น้อย แต่การปฏิบัติต่อลูกทีมแบบนี้ เปรียบเสมือนการไม่ให้เกียรติ และลืมวลีที่อยู่กับสโมสรมาอย่างยาวนานที่ว่า “คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย” 

แต่นั่นแหละครับ สิ่งที่เขาทำลงไป มันก็ทำให้เราจำเป็นต้องแยกทางกับเขาเมื่อเดือนตุลาคม 2015 และตำนานบทใหม่ก็เริ่มขึ้นหลังจากนั้น

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็คงต้องขอขอบคุณ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่เข้ามาสร้างความสุขให้แฟน ลิเวอร์พูล ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะฤดูกาล 2013/14 ที่อีกนิดเดียว เราก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ด้วยกันแล้ว

หลังจากนี้ก็มีแต่คำอวยพรให้ ‘โชคดี’ แต่เป็นไปได้ขอร้อง FSG ว่าอย่าหน้ามืดไปดึงกุนซือแบบนี้มาอีกเลย

เขียนโดย The Lite Team.