แบรนธ์เวต เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2002 ในประเทศอังกฤษ เขาจากมาครอบครัวชนชั้นกลาง ซึ่งพ่อของเขาเคยเป็นอดีตนักรักบี้มาก่อน  ซึ่งทำให้เจ้าหนูน้อยรายนี้ได้ไปดูพ่อเล่นรักบี้อยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ชอบฟุตบอลมากกว่า

แม่ของเขาเคยกล่าวไว้ว่า “ในตอนเด็กสวนของเราพัง เพราะ จาร์ราด ไม่เคยหยุดเตะฟุตบอล เขาเล่นกับลูกบอลตลอดเวลา”

ในฤดูกาลที่แล้ว เซ็นเตอร์แบ็ควัย 21 ปี ลงสนามให้กับ พีเอสวี รวมทุกรายการ 36 เกม ยิงได้ 4 ประตู พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ และตอนนี้ ฌอน ไดช์ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน ก็มองว่าเขาจะเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมในชุดปัจจุบัน และในอนาคตระยะยาว

เขากล่าวว่าถึง แบรนธ์เวต ที่ไม่ได้ลงเล่นใน 2 เกมแรกของซีซั่นที่ ‘ท๊อฟฟี่’ พ่ายแพ้ว่า “เขาโชคร้ายมากในช่วงปรีซีซั่น เขาพลาดช่วงพรีซีซั่นไป 2 สัปดาห์ครึ่ง นั่นอาจทำให้เขามีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อไป และเริ่มต้นฤดูกาลได้ แต่เมื่อเขาฟิตสมบูรณ์ เขาก็คว้าโอกาสไว้ทันที”

แม้ว่าเขาจะเป็นนักเตะหน้าใหม่ในศึก พรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถรับมือกับการเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษได้ และทำผลงานในสนามได้อย่างยอดเยี่ยม

ตลอดหลายปีที่ผ่านมากองหลังรายนี้ยังไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลักของ เอฟเวอร์ตัน ก่อนที่จะพัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ในซีซันนี้ โดยรับบทบาทในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย เล่นคู่กับ เจมส์ ทราคอฟสกี้ กองหลังรุ่นพี่ได้อย่างเข้าขาลงตัว

ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ไปเล่นกับ พีเอสวี ของกุนซือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ด้วยสัญญายืมตัว แบรนธ์เวต ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกองหลังที่สมบูรณ์แบบ โดยมีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จอยู่ที่ 87% ซึ่งอยู่ในอันดับสุดในทีม

หลังจากหมดยุคของ เวย์น รูนีย์ ไป เอฟเวอร์ตัน ก็แทบไม่มีดาวรุ่งที่สามารถแจ้งเกิดขึ้นมาเป็นนักเตะระดับหัวกะทิได้เลย และบางที แบรนธ์เวต อาจกำลังสร้างเส้นทางของตัวเองเพื่อก้าวขึ้นไปเป็นกองหลังระดับโลกได้ในอนาคต ซึ่งด้วยฟอร์มการเล่นของเขาในตอนนี้ ทำให้ทั้งสื่อในและนอกต่างพากันจับตาดูพัฒนาการของเจ้าหนูรายนี้อย่างใกล้ชิด

เขียนโดย The Lite Team.