เลาะรั้วปีศาจแดง: อาลัยแด่ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
เมื่อช่วงก่อนเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงฟาดแข้งกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สาวก ‘ปีศาจแดง’ ต่างก็ต้องพบกับข่าวเศร้าที่ว่า เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ได้เสียชีวิตลงไปแล้วด้วยวัย 86 ปี
แฟนบอลที่ได้ติดตาม พรีเมียร์ลีก ผ่านหน้าจอคงคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ยามที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวลงสนามที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด กล้องก็มักจะจับภาพไปที่ เซอร์ บ็อบบี้ ที่เข้ามาชมเกมให้กำลังใจนักเตะรุ่นหลานอยู่เป็นประจำ
และหลังจากวันที่ 21 ตุลาคม 2023 คงไม่มีภาพนั้นให้ได้เห็นกันอีกต่อไปแล้ว
ตำนานสโมสรรายนี้ได้เสียชีวิตลงในวัย 86 ปี ด้วยอาการป่วยจากโรคสมองเสื่อม ซึ่งตรวจพบมาตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2020 และพี่ชายของเขา แจ็ค ชาร์ลตัน ก็ถูกโรคนี้พรากชีวิตไปด้วยเช่นเดียวกัน
เซอร์ บ็อบบี้ ได้ลงประเดิมให้กับทีมชุดใหญ่ของ ‘ปีศาจแดง’ ในวัย 18 ปี ด้วยการเจอกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก เมื่อเดือนตุลาคม 1956 และลงเล่นให้กับสโมสรไปทั้งสิ้น 758 เกมและทำไปได้ 249 ประตู
ตลอด 17 ปีในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย, ยูโรเปี้ยนคัพ (แชมเปี้ยนส์ลีก) 1 สมัย และ เอฟเอคัพ อีก 1 สมัย
ด้วยความยิ่งใหญ่ของตำนานรายนี้ ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้เปลี่ยนชื่ออัฒจันทร์ทางฝั่งทิศใต้ให้เป็น ‘เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน สแตนด์’ เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตนักเตะรายนี้เมื่อปี 2016
กับทีมชาติอังกฤษ เขาลงเล่นไปถึง 106 นัด และถือครองสถิติยิงประตูมากที่สุด 49 ประตู ก่อนที่จะมาโดนดาวยิงรุ่นหลานอย่าง เวนย์ รูนีย์ ทำลายสถิติไปเมื่อปี 2015
เขายังเป็นคนพาทัพ ‘สิงโตคำราม’ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกและสมัยเดียวเมื่อปี 1966 ด้วยการลงเล่นครบทุกนาที และคว้า บัลลงดอร์ มาครองได้ในปีเดียวกันด้วย
นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเตะผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมมิวนิค ซึ่งเกิดขึ้นในยุคของ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ และมีกลุ่มนักเตะและสต๊าฟเสียชีวิตไปจากเหตุการณ์นั้นร่วม 8 ราย
ด้วยเรื่องราวต่างๆ นานาที่ เซอร์ บ็อบบี้ ได้ประสบมา รวมถึงผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยม คงยากที่จะมีแข้งรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาเทียบได้ โดยเฉพาะการพาทีมชาติอังกฤษไปถึงจุดสูงสุดของวงการฟุตบอล และเชื่อว่าตำนานท่านนี้จะอยู่ในใจของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษตลอดไป
อาลัย The Lite Team.