Gooner Journey: ตัดเกรด ‘แข้งปืน‘ หลังเกมเชือด ‘ซิตี้‘
กาเบรียล มาร์ติเนลลี ซัลโวท้ายเกมพา อาร์เซนอล คว้าชัยเหนือ แมนฯ ซิตี้ ในเกมลีกครั้งแรกได้สำเร็จในรอบ 8 ปี วันนี้เราจึงจะขอให้คะแนนขุนพลผู้เล่นชุดนี้ไล่เรียงทีละบุคคล
ดาบิด ราย่า 6.5/10
ครึ่งเวลาแรกออกอาการตื่นเต้นอย่างชัดเจน แถมยังทำทะเล่อทะล่าจนเกือบเตะอัดคู่แข่งเข้าประตูฝั่งตัวเอง ต่อให้ใครจะบอกว่านี่คือคำสั่งของ อาร์เตต้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสุดท้ายนักเตะก็ต้องประเมินสถานการณ์ซึ่งหน้าด้วยตัวเองร่วมด้วย ดีหน่อยที่ครึ่งเวลาหลังกลับมาโฟกัสและมีสมาธิมากขึ้น ภาพรวมในเกมนี้’ผู้รักษาประตูชาวสเปน’ไม่มีจังหวะให้ต้องออกแรงเซฟมากมาย
เบนจามิน ไวท์ 8.5/10
ไวท์ ทำได้ดีตลอดทั้งเกมกับการปิดพื้นที่ทางฝั่งซ้ายของคู่แข่ง รวมถึงการขยับเข้ามายืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็คทางกราบขวาในช่วงเวลาที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หุบเข้ามาเชื่อมบอลตรงกลาง อีกทั้งเกมรุกในวันนี้ยังมีโอกาสได้เติมขึ้นไปปั่นป่วนคู่ต่อสู้อยู่บ่อยครั้ง แม้จะไม่อันตรายเท่าที่ควร(เพราะคู่แข่งคือ ซิตี้)แต่ก็มีส่วนร่วมกับเกมอยู่ตลอดเวลา
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ 8/10
เกมนี้ ‘ซินนี่‘ ไม่ค่อยได้เล่นตามสไตล์ที่ตัวเองถนัดสักเท่าไหร่ เนื่องจากต้องคอยประจำตำแหน่งสกัดกั้นเกมบุกของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและอันตราย แต่เขาก็คุมพื้นที่ได้ดีจนความน่ากลัวทางฝั่งขวาของ ซิตี้ เงียบเชียบผิดคาด
กาเบรียล มากัลเญส 10/10
ยืนตำแหน่งได้ดีมาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล โดยเฉพาะในเกมนี้ที่เหมือนจะถูกกำชับให้คอยเก็บตกจังหวะสองหน้ากรอบประตูของตัวเอง เขาอาศัยความใหญ่ของร่างกายได้เป็นประโยชน์ ยืนบังทิศทางการจ่ายบอลสั้นของคู่แข่งจน ซิตี้ ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
วิลเลี่ยม ซาลิบา 10/10
นี่คือเกมที่แนวรับชาวฝรั่งเศสทำหน้าที่ได้อย่างหมดจดสมคำร่ำลือ ปิดตายโคตรเพขรฆาตอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ไม่มีโอกาสง้างเท้ายิงแม้แต่ครั้งเดียว ลูกกลางอากาศก็เก็บกินเรียบ เป็นกองหลังที่มีความเร็วชนิดที่แบบชนหมดไม่สนลูกใคร ส่วนบอลบนพื้นก็เนียนตา สมกับฉายา ‘โรลส์-รอยซ์ แห่งลอนดอนเหนือ‘
จอร์จินโญ่ 7/10
ได้รับโอกาสลงตัวจริงในเกมใหญ่เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ พี่แกก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่ก็ไม่ได้มีผลงานโดดเด่นอะไร เข้าใจว่า อาร์เตต้า ต้องการใช้ความเก๋าของ ‘มิดฟิลด์ชาวอิตาลี‘ มาคอนโทรลจังหวะของเกม และอาศัยความสามารถในจ่ายบอลของเขาช่วยลำเลียงถ่ายลูกฟุตบอลออกซ้ายทีขวาทีเพื่อแกะเพรสซิ่งของคู่แข่ง ก่อนที่จะมองหาจังหวะผ่านบอลยาวเมื่อครั้นมีโอกาส
ดีแคลน ไรซ์ 10/10
สมราคาค่าตัวทุกเม็ดเงิน! ไรซ์ เป็นทุกอย่างให้กับ อาร์เซนอล ในเกมนี้ พลังงานของเขาช่วยเหลือเกมรุก-รับ ได้อย่างไร้ที่ติในแบบที่แฟนบอลอย่างผมต้องกลับไปดูรีแมตซ์เต็มเกมอีกรอบนึง พูดยังไงดีล่ะ มันบรรยายไม่หมดจริงๆ สำหรับผมนี่คือ Man of the match ของเกมนี้ครับ
มาร์ติน โอเดการ์ด 7/10
เกมนี้ถือว่าทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานในฝั่งของเกมรุก แต่ก็เข้าใจได้ว่าคู่แข่งปักธงเป้าหมายไปที่เขาชนิดที่เรียกว่า ‘มึงไปไหน กูไปด้วย‘ แถมคู่กลางของ ซิตี้ ยังไล่ลดบี้แบบไม่ลดละ ไม่ปล่อยให้มีโอกาสได้พลิกบอลทำเกมตลอดทั้ง 90 นาที แต่ในด้านของเกมรับเขายังคงเป็นคนเดียวที่วิ่งไล่กดดันคู่แข่งในแดนบนตลอดทั้งเกมจนรู้สึกว่า "นี่พี่แก เอาแรงมาจากไหนวะ"
เลอันโดร ทรอสซาร์ด 5/10
วันนี้ไม่ค่อยได้เล่นกับบอลสักเท่าไหร่ หรือต่อให้กระทั่งมีโอกาสครองบอลก็ทำได้แย่เกินคาดจากที่เคยเป็น ภาพรวมเกมนี้สอบตก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเรื่องอาการบาดเจ็บที่ทำให้เขาถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งหรือการไม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องจึงทำให้จูนกับเพื่อนไม่ติด แต่ก็นั่นแหละ! มันไม่ใช่ข้อแก้ตัวหากผู้จัดการทีมมองว่าเขาควรออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตั้งแต่แรก
กาเบรียล เฆซุส 8.5/10
ลงสนามในตำแหน่งของ บูกาโย่ ซาก้า ถือว่าสอบผ่านแม้จะยังดูไม่ค่อยเข้าใจในบางจังหวะกับ เบน ไวท์ แต่ในทางกลับกันเจ้าตัวใช้ความสามารถในการเลี้ยงบอลที่มาพร้อมกับเทคนิคการเอาตัวรอดเล่นงานแบ็คซ้ายอย่าง กวาร์ดิโอล จนเกือบเสียท่าในหลายจังหวะ เมื่อไหร่ก็ตามที่บอลอยู่กับ ‘แนวรุกชาวราซิล‘ ผู้นี้ บอกเลยว่าปลอดภัยหายห่วง แม้จะมีแอบหวงบอลไปบ้างเป็นครั้งคราวตามสไตล์ ‘บราซิลเลี่ยนฟุตบอล‘ สงสัยลืมไปว่าตัวเองเล่นตำแหน่งปีกขวา แต่ภาพรวมของเกมนี้เขาคือคนที่มี Impact กับเกมรุกของ อาร์เซนอล อย่างมาก
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ 5/10
เหมือนกับลงให้ครบ 11 ตัวจริงเท่านั้นอย่างที่แฟนบอลร่ำลือ ‘เอ็ดดี้‘ ไม่สามารถพึ่งพาได้ในแดนบน หลายครั้งพยายามฝืนเล่นด้วยตัวเองมากเกินไปจนเพื่อนร่วมทีมเสียโอกาส อีกทั้งยังมีช็อตไปแย่งบอลจาก โอเดการ์ด มาเล่นทั้งที่ตัวเองอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า เห้อ! ขออภัยแฟนคลับน้องเขาด้วยนะครับ
กาเบรียล มาร์ติเนลลี (ตัวสำรอง) 9/10
นี่คือคนพลิกเกมในช่วงครึ่งเวลาหลังอย่างแท้จริง นอกจาก ‘แก๊บบี้‘ จะเป็นฮีโร่ซัดประตูโทนแล้วเขายังมีส่วนร่วมกับเกมรุกทันทีตั้งแต่ก้าวเข้าสู่สนาม ส่งผลให้ฝั่งซ้ายของ อาร์เซนอล เพิ่มความอันตรายชนิดที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจากครึ่งเวลาแรก
ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ (ตัวสำรอง) 8.5/10
ลงสนามมาเป็นตัวสำรองแต่ก็ปฏิบัติตามแผนการของ อาร์เตต้า ได้อย่างแนบเนียน หลังจากพาตัวเองเข้าไปยังกรอบเขตโทษและเป็นคนโหม่งชงให้กับ ไค ฮาแวร์ต ก่อนบอลจะตุงตาข่ายด้วยน้ำมือของ มาร์ติเนลลี นอกจากนั้น ‘แนวรับแดนปลาดิบ‘ ยังมีสมาธิในช่วงเวลาที่ ซิตี้ กดดันท้ายเกมได้เป็นอย่างดี
โธมัส ปาร์เตย์ (ตัวสำรอง) 8/10
กลับคืนสู่สนามหลังจากได้รับบาดเจ็บไปนาน ‘พี่หมึก‘ ไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ โชว์พิษสงวางบอลยาวจนเป็นที่มาของประตูชัย นอกเหนือจากนั้นทำหน้าที่ได้ตามแผนของผู้จัดการทีม เหมือนลงมาเรียกความฟิตซะมากกว่า แต่ก็ยังรักษามาตรฐานการเล่นได้ในระดับของตัวเองตามปกติ หลังจากนี้คงได้เห็นสามประสานในแดนกลางที่แฟนปืนใฝ่ฝันอย่าง ไรซ์, ปาร์เตย์ และ โอเดการ์ด แค่คิดก็ฟินเฟร่อ!
ไค ฮาแวร์ตซ์ (ตัวสำรอง) 8/10
"อาร์เซนอล ไม่เคยแพ้ให้กับ ซิตี้ หากพวกเขามี ฮาแวร์ต อยู่ในสนาม" จบการรายงาน
การเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือหนึ่งในเงื่อนไขที่พวกเขาไล่ล่ามันมาตลอดในระยะหลัง ณ วันนี้ทำสำเร็จ ถือเป็นการปลดล็อคทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในใจของ มิเกล อาร์เตต้า หลังจากนี้จะเป็นเช่นไร? "ความสม่ำเสมอ" นั่นแหละคือคำตอบของปลายทางสำหรับฤดูกาลนี้
เขียนโดย The Lite Team.