สุดสัปดาห์นี้พลพรรค ‘ปีศาจแดง’ จะได้ลงเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันด้วยการเจอกับ เบรนท์ฟอร์ด โดยที่ก่อนหน้านี้ กูรูจากสำนักข่าวต่างๆ ก็มองว่าเป็นโอกาสอันที่ที่พวกเขาจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ จากการที่ได้เปรียบจากเรื่องของเสียงเชียร์จากแฟนและความคุ้นเคยกับสนามติดต่อกันรัวๆ แบบนี้

แหม่… แต่อะไรๆ มันก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นน่ะสิครับ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นในเกมแรกด้วยการเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปได้อย่างสบายๆ 3-0 ในศึก คาราบาวคัพ ก่อนที่จะได้รีแมตช์กับทีมของปู่รอย ฮอดจ์สัน อีกครั้งในเกม พรีเมียร์ลีก แต่ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ และตามมาด้วยเกมยุโรปกลางสัปดาห์ ที่ ‘คาบ้าน’ อีกครั้งด้วยการแพ้ให้กับ กาลาตาซาราย ด้วยสกอร์ 3-2

ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับ เอริก เทน ฮาก ที่โอกาสดีๆ อยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่กลับโยนมันทิ้งไปซะอย่างนั้นได้

จนถึง ณ ตอนนี้ พวกเขาลงเล่นมาแล้วทั้งสิ้น 10 เกมรวมในทุกรายการและพบกับความพ่ายแพ้ไปถึง 6 เกมด้วยกัน และยังเสียประตูไปแล้วถึง 18 ประตูด้วยกัน ซึ่งถือเป็นการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบเกือบ 60 ปีเลยทีเดียว

สำหรับในเกมนี้ กุนซือชาวดัตช์จะต้องเรียกศรัทธากลับมาจากเหล่าแฟนบอลให้ได้ หลังจากที่มีกระแส #TenHagOut โผล่ออกมาบ้างแล้วในระยะหลังๆ นี้ และเกมกับ ‘เดอะ บีส์’ ที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ย่ำแย่จากการไม่ชนะใครมา 5 เกมติด ก็เป็นโอกาสดีของ ‘เร้ด เดวิลส์’ ที่จะกลับมาคว้าผลการแข่งขันตามที่ต้องการอีกครั้ง

และด้วยการที่แพ้ในลีกสูงสุดของอังกฤษที่ ‘โรงละครแห่งความฝัน’ มาแล้วถึง 2 นัดติดต่อกัน พวกเขาก็คงไม่อยากที่จะสร้างสถิติใหม่ด้วยการแพ้ ‘คาบ้าน’ บน พรีเมียร์ลีก ถึง 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรก

เรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือการที่ ยูไนเต็ด แพ้ให้กับสโมสรจากลอนดอนในลีกมาแล้วทุกเกมในซีซั่นนี้ เริ่มด้วยการแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 ตามมาด้วย อาร์เซนอล 3-1 และล่าสุดก็คือ พาเลซ เมื่อปลายเดือนที่แล้วนั่นเอง

ตอนนี้บรรดาสาวก ‘ปีศาจแดง’ ได้แต่หวังว่าทีมรักของพวกเขาจะหยุดเดินหน้าสร้างสถิติ ‘แย่ๆ’ เสียที แล้วเดินหน้าคว้าชัยชนะมาให้ได้เรื่อยๆ ก็คงต้องเริ่มลุ้นกันตั้งแต่ในเกมคืนแล้วล่ะครับ

เขียนโดย The Lite Team.