หลังจากนั้นนายใหญ่ชาวอังกฤษ ก็ตัดสินใจรับงานคุมทีมเชลซี ทำให้เหล่าสาวก ‘เดอะ ซีกัลส์’ เกิดความกังวลว่าผู้จัดการทีมคนใหม่ที่เข้ามาสานต่อจะไม่มีความสามารถพอพา ไบรท์ตัน ไปถึงจุดหมายอย่างทีมพวกเขาใฝ่ฝันไว้

แต่นั้นก็เป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น หลังบอร์ดบริหารเลือก โรแบร์โต เด แซร์บี เกจิชาวอิตาลี ที่กำลังว่างงาน หลังจากที่ต้องขอแยกทางจาก ชัคตาร์ โดเนตสก์ สโมสรต้นสังกัดของเขาใน ยูเครน เนื่องจากเกิดสงครามกับ รัสเซีย

เขาไม่ได้เป็นที่ถูกกล่าวถึงมากนักในวงการฟุตบอล อิตาลี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวของเขาเองก็ไม่ได้เป็นอดีตนักเตะดาวดังในระดับหัวแถวของประเทศมาก่อน ในอดีตเขาเป็นผลผลิตมาจาก มิลาเนลโล แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ เอซี มิลาน ได้ เจ้าตัวผ่านการค้าแข้งให้กับหลายสโมสร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะต่ำกว่าลีก เซเรีย อา

ถึงกระนั้นโดยสไตล์การเล่นของเขาแล้ว ใครที่ได้เห็นก็อดชื่นชมไม่ได้ เนื่องจาก เด แซร์บี เป็นผู้เล่น ‘หมายเลข 10’ สุดคลาสลิก และยังเป็นผู้เล่นที่ถนัดเท้าซ้ายอีกด้วย เรียกว่าเป็นคนมีจินตนาการสูงส่งในการเล่นมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักเตะเลยทีเดียว และได้รับสมญาว่าเป็น ‘อัจฉริยะน้อย’ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2013 ในวัย 33 ปี

หลังจากนั้น เด แซร์บี ก็ได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่อย่างการเป็นผู้จัดการทีม โดยเริ่มคุมทีมเล็กๆ อย่าง ดาร์โฟ โบอาริโอ และก็มา ฟอจจา อดีตทีมเก่าของเขา จนกระทั้งปี 2016 เจ้าตัวได้มีโอกาสคุม ปาแลร์โม ใน เซเรีย อา ซึ่งถือว่านี่เป็นฝันร้ายสำหรับหลังคุมทีมได้เพียง 3 เดือน เขาก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง

และในซีซั่น 2017 เด แซร์บี ก็ได้รับงานใหม่ในการคุมทีมเบเนเวนโต ภายใต้การคุมทีมของเขาแม้จะมีขุมกำลังที่ย่ำแย่ อ่อนแอแค่ไหน แต่เฮดโค้ชรายนี้ ก็สร้างความประทับใจให้กับทุกคนด้วยสไตล์การเล่นที่ยอดเยี่ยม ฟุตบอลเกมรุกที่เน้นการครองเกมเป็นหลัก โดยที่ขุนพลในทีมก็เป็นนักเตะชุดเดิมๆ ที่ขึ้นมาจาก เซเรีย บี

แต่เขาก็ไม่สามารถพา เบเนเวนโต หนีรอดการตกชั้นได้ และด้วยสไตล์การทำทีม ทำให้ ซาสซูโอโล รีบคว้าตัวเขาไปร่วมทีม หลังจากนั้นไม่น่าน พวกเขาก็กลายเป็นทีมที่ได้รับเสียงยกย่องอย่างมากภายใน อิตาลี จากสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบของ เด แซร์บี

เด็ดกว่านั้นคือ ในช่วงเวลา 2 ซีซั่นที่เขาอยู่กับ ซาสซูโอโล สามารถปั้นผู้เล่นขึ้นมา และทำให้สโมสรทำรายได้มากกว่า 150 ล้านยูโร เพราะนอกจากความสามารถในการเป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมแล้ว เขายังมี ‘สายตา’ ที่มองขาดว่าใครคือจะกลายเป็นสตาร์

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ไบรท์ตัน โดยการเปลี่ยนแปลงทีมที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้วจากมรดกของ เกรแฮม พอตเตอร์ ให้กลายเป็นทีมที่ดียิ่งขึ้นไปอีก เล่นได้น่าดูมากขึ้นไปอีกระดับ สร้างสตาร์หน้าใหม่อย่าง คาโอรุ มิโตมะ ขัดเกลานักเตะอย่าง เพอร์วิส เอสตูปิญาน และ มอยเซส ไคเซโด้ ตอนนี้เหมือนจะพบดาวดวงใหม่อย่าง ฮูลิโอ เซซาร์ เอ็นซิโซ นั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ มันคือความสามารถที่แท้จริงของ โรแบร์โต เด แซร์บี


เขียนโดย The Lite Team.