6 นัดผ่านไป กุนซือ ไทยลีก หายไป 3 ราย แล้วใครจะเป็นรายต่อไป
ศึก รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาลนี้ ผ่านไป 6 นัด (แม้ว่าบางทีมจะยังเตะไม่ถึงเพราะมีเลื่อนการแข่งขัน) กุนซือก็ปลิวหายไปสามคนเรียบร้อยแล้ว สมกับฉายาที่ว่าเป็น ‘ลีกกินโค้ช’ แล้วใครจะเป็นรายต่อไป
ไล่เรียงมารายแรกเป็นของทีมน้องใหม่อย่าง อุทัยธานี เอฟซี ที่จัดการเปลี่ยนแปลงเร็วจัดการปลด ‘โค้ชโด’ ภัทรพล นาประเสริฐ ที่พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมา ก่อนจะแต่งตั้ง มิคาเอล สตาเรห์ กุนซือชาวสวีเดน เข้ามาคุมทัพในช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมา
ถ้าหากย้อนไปก่อนหน้าจะเปิดลีก ข่าวคราวการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่ร้อนแรงที่สุดคงหนีไม่พ้นในแคมป์ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จัดการเชือด มาซาทาดะ อิชิอิ ด้วยการดีดไปนั่งตำแหน่ง ประธานเทคนิคทีมชาติไทย ก่อนจะใช้ อาเธอร์ ปาปาส ที่ดีกรีเป็นอดีตมือขวา อังเก้ ปอสเตโคกลู แต่มันก่อนที่ฟุตบอลลีกจะเปิดฉากขอไม่นับ
รายที่สองเป็น เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ขอลาออกหลังทีมแพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-5 เก็บได้เพียงคะแนนเดียวจากการแข่ง 4 นัดเท่านั้น พร้อมกับแต่งตั้ง อุทัย บุญเหมาะ ลูกหม้อของสโมสรเข้ามารับตำแหน่งรักษาการณ์แทน ซึ่งก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด แถมยิงนัดละ 3 ประตู
และรายล่าสุดเป็น ‘โค้ชวัง’ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เฮดโค้ชของ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ประกาศลาออกรับผิดชอบผลงานหลังเกมที่แพ้ เมืองทอง คาบ้าน 1-3 จนทีมร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่ 14 อยู่โซนสีแดง
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ 3 ทีมที่เรียกว่าเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยฟอร์มที่ไม่ดีนัก และมีช่วงเวลาที่จมอยู่ในโซนหนีตกชั้น หรือไม่เป็นไปตามเป้าทั้งรูปแบบการเล่น หรือผลลัพท์ก็ตาม แต่ก็มีเฮดโค้ชอีกหลายคนที่โดนมีดจ่อหลัง เตรียมโดนบอร์ดบริหารเชือดอยู่ตลอดเวลา
คนแรกคนจะหนีไม่พ้น อเล็กซานเดร กาม่า จาก ลำพูน วอริเออร์ บ๊วยของตาราง ไทยลีก ณ เวลานี้ หลังทำทีมชนะเพียงนัดเดียว ที่เหลือแพ้รวด และยิงได้เพียง 3 ประตู น้อยที่สุดในลีก ซึ่งเหล่าทีมที่อันดับเหนือกว่าพวกเขาทยอยปรับเปลี่ยนหัวเรือใหญ่กันไปแล้ว แต่ด้วยดีกรี และการพาทีมจบถึงอันดับ 10 ในฤดูกาลที่แล้ว บวกกับรูปเกมในหลายๆ นัดยังดูดี ทำให้ กาม่า ยังคงอยู่กับทีม แต่โปรแกรมนัดต่อไปที่จะเปิดบ้านเจอกับ ราชบุรี เอฟซี คงเป็นหนึ่งเกมที่จะชี้ชะตาของ กาม่า ว่าจะได้โอกาสไปต่อหรือไม่
ชูศักดิ์ ศรีภูมิ คืออีกหนึ่งเต็งที่เตรียมตกเก้าอี้ เขาทำสุโขทัย เอฟซี ได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 นัดแรก ทั้งบุกไปชนะ ลำพูน วอริเออร์ และยันเสมอ ตราด เอฟซี แต่หลังจากนั้นแพ้รวด 3 นัดติดต่อกัน จนลงมาอยู่ในอันดับที่ 15 มีแต้มเท่ากับ ‘ราชันโคขาว’ เพียงแต่ว่าพวกเขาเพิ่งแข่งไปแค่ 5 เกมเท่านั้น แต่ทั้ง 3 เกม ที่ ‘ค้างคาวไฟ’ แพ้เป็นการแพ้ทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์, ทรู แบงค็อก และลีโอ เชียงราย จึงยังพอเป็นเหตุผลที่แก้ตัวได้ของ escapeSingleQuotโค้ชชู’
คนสุดท้ายดูจะพลิกโผหากพูดชื่อเขาในช่วงต้นฤดูกาล กับ มาโกโตะ เทกุระโมริ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชของ ชลบุรี เอฟซี หลังโดน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปลดในฤดูกาลที่ผ่านมา เขาเข้ามาด้วยความคาดหวังจากแฟนบอลในการวางรากฐานทีมใหม่ กับเยาวชนคุณภาพเยี่ยมของ ‘ฉลามชล’ แน่นอนแฟนบอล และเหล่าผู้บริหารไม่ต้องการให้ โค้ชเทกุ เข้ามาเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือโดยทันที แต่ด้วยผลงานชนะเพียงนัดเดียวจาก 5 นัดที่ผ่านมาก็ทำให้แฟนบอลเริ่มถามถึงการเปลี่ยนแปลงเอาเสียแล้ว
ชลบุรี เอฟซี เป็นทีมที่ไม่ค่อยเปลี่ยนหัวเรือกลางคัน หรือระหว่างฤดูกาลมากนัก และล่าสุดผู้บริหารทีมก็ยังคงเชื่อมั่นในแนวทางการทำทีมของ เทกุระโมริ ที่เน้นการเล่นบอลกับทีม พร้อมกับให้โอกาสเยาวชนขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ ดังนั้นแม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องให้ปลด เทกุ แต่คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง เว้นว่าทีมจะแย่แบบอยู่ในโซนหนีตกชั้น หรือแพ้ติดต่อกันหลายนัด
ในฤดูกาลที่แล้ว มีการเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนไปมากกว่า 15 ครั้ง ทีมอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็เปลี่ยนไปถึง 3 คน มาดูกันว่าฤดูกาลนี้ ไทยลีก จะยังคงเป็น ลีกกินโค้ช เหมือนเดิมหรือไม่
เขียนโดย The Lite Team.