ชวนคุยก่อนเกม: สงครามสัตว์ปีก ‘ไก่’ หรือ ‘หงส์’ จะคว้าชัย
เกมที่น่าติดตามที่สุดในค่ำคืนวันเสาร์นี้ คงหนีไม่พ้นคู่ดึกสุดที่เป็นการพบกันระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ลิเวอร์พูล รวมถึงยังเป็นแมตช์ส่งท้ายเดือนกันยายนอีกด้วย
ที่ต้องเกริ่นว่าเป็นเกมสุดท้ายของเดือนกันยายน ก็เพราะว่าเมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม ทางฟากประเทศแถบยุโรปก็จะเข้าสู่ช่วง ‘วินเทอร์ไทม์’ หรือจะมีการลดเวลาใช้ช้าลงไปอีก 1 ชั่วโมงนั่นเองครับ เช่นจากคู่แรกเตะ 6 โมงครึ่ง ก็จะกลายเป็นเตะตอนทุ่มครึ่งนั่นเองครับ ก็ทำให้เวลานอนของชาวเอเชียอย่างเรา ลดน้อยลงไปอีก 1 ชั่วโมงนั่นเอง
เอาล่ะ… มาเข้าเรื่องกันเลยครับ
สเปอร์ส ยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างไฉไลด้วยการลงเล่นไปแล้ว 6 เกมใน พรีเมียร์ลีก และยังไม่แพ้ใครเลยกับสถิติชนะ 4 เสมอ 2 มี 14 คะแนนรั้งอยู่ในอันดับ 4 ของตาราง
ทางด้านทีมของ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ด้วยการแก้ตัวจากฤดูกาลก่อนที่ออกสตาร์ทได้ไม่ค่อยดีนัก กลับมาในฤดูกาลนี้ พวกเขากำลังเป็นรองจ่าฝูงกับการคว้าชัยชนะมาแล้วถึง 5 นัดรวดบนลีกสูงสุดของอังกฤษในฤดูกาลนี้
หรือถ้านับรวมทุกรายการ พวกเขาชนะมาแล้ว 7 เกมติดต่อกัน และยังชนะด้วยสกอร์ 3-1 ไปแล้วถึง 4 เกมรวด แหม่… อย่างกับล็อกผลกันเลย
สถิติที่น่าสนใจของเกมระหว่างคู่นี้คือ ‘ไก่เดือยทอง’ ชนะ ‘หงส์แดง’ ได้เพียงแค่ครั้งเดียวในการพบกัน 21 ครั้งหลังสุดบน พรีเมียร์ลีก ซึ่งครั้งล่าสุดที่ชนะได้ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ที่พวกเขายังเช่าสนาม เวมบลีย์ เป็นสังเวียนเหย้าและชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4-1
นอกจากนี้ พลพรรค ‘เร้ด แมชชีน’ ยังคงยึดสถิติไม่แพ้ใครบนลีกสูงสุดมาแล้วถึง 17 นัด ลากกันมาตั้งแต่เมื่อซีซั่นก่อน โดยทีมที่รั้งอันดับ 2 ณ ปัจจุบันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คู่หูจากลอนดอนเหนืออย่าง ‘ปืนโต’ และ ‘คลับไก่’ นั่นเอง ที่ตามมาห่างๆอย่างห่วงๆ ด้วยสถิติไม่แพ้ใครมาแล้ว 7 นัด ห่างกันแค่ 10 นัดเท่านั้นเอง
สภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ต้องบอกว่า ท็อตแน่ม นั้นค่อนข้างจะได้เปรียบกว่าในแง่ของสภาพความฟิต ที่ไม่มีโปรแกรมในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการชิงตกรอบ คาราวบาวคัพ ไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทำให้พวกเขาได้พักอย่างเต็มๆตลอดทั้งสัปดาห์
แต่ก็ยังมีเรื่องอาการบาดเจ็บจากในเกม ดาร์บี้ แมตช์ ของผู้เล่นอย่าง เจมส์ แมดดิสัน และ เบรนแน่น จอห์นสัน ที่ยังคงต้องรอเช็คความฟิต รวมถึงการขาดตัวเปลี่ยนเกมอย่าง อีวาน เปริซิช ที่โชคร้ายต้องพักยาวทั้งฤดูกาล
ข้ามมาทางฟากของ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งลงเตะเกม ลีกคัพ กับ เลสเตอร์ มาเมื่อคืนวันพุธ ก็แทบจะไม่มีปัญหาอะไร โดยที่ คล็อปป์ ตัดสินใจโรเตชั่นเกือบจะทุกตำแหน่ง ให้นักเตะตัวสำคัญได้รักษาความสดเอาไว้ แต่ก็มี อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ ดิโอโก้ โชต้า ที่ได้ลงเล่นครบ 90 นาที รวมถึง โดมินิค สโบซสไล และ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ต้องลงมาเปลี่ยนเกมพาทีมคว้าชัยชนะในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
เชื่อว่ารูปเกมในค่ำคืนนี้จะต้องออกมาสนุก ไม่มีชวนง่วงอย่างแน่นอน ด้วยสไตล์การทำทีมของทั้ง 2 กุนซือที่เน้นในเรื่องของเกมบุก รวมถึงสปีดที่จัดจ้านของแนวรุกของทั้ง 2 ฝ่าย ต้องมารอดูกันว่าสกอร์จะออกมาเป็นที่รูปแบบไหน แต่ถ้า ‘หงส์แดง’ ชนะ 3-1 อีกเกม ก็น่าคิดแล้วนา…
เขียนโดย The Lite Team.