ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสกลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ หลังเพิ่งหมดสัญญากับทีมดังในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน และกลายเป็น ‘เนรัซซูรี่’ ที่สามารถชนะใจนักเตะได้ โดยเซ็นสัญญาถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2028

มาร์คัส เป็นลูกชายของ ลิลิยง ตูราม ตำนานกองหลังทัพ ‘ตราไก่’ โดยเจ้าตัวเริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งกับ โซโชซ์ ในวัย 17 ปี เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนในการคว้าถ้วยรางวัลแรกในอาชีพ โดยช่วยทีมทำได้ 1 ประตู ในเกมที่เอาชนะ ลียง 2-0 คว้าแชมป์ Coupe Gamberdella ปี 2015 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยระดับชาติรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีของ ฝรั่งเศส

ก่อนที่จะมีโอกาสมาเล่นให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เมื่อปี 2019 ซึ่งในฤดูกาลแรกที่เข้ามาใน เยอรมัน เขายิงไป 10 ประตู 8 แอสซิสต์ โดยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัว ทำให้ทีมจบอันดับ 4 คว้าตั๋วไปเล่น แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ แม้ว่าในฤดูกาลต่อมาจะจบอันดับที่ 8 แต่ ผลงานโดยส่วนตัวของ มาร์คัส ตูราม ก็ยังถือว่าดีต่อเนื่องโดยในฤดูกาลนั้นทำไป 23 ประตูในทุกรายการ โดยตลอด 4 ปี เจ้าตัวยิงไป 44 ประตู 29 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 134 เกมในทุกรายการ

เพชฌฆาตรายนี้มีจุดเด่นในเรื่องของการทำประตู และการปะทะในกรอบเขตโทษจังหวะลูกกลางอากาศ เนื่องเขามีทั้งความสูงและความแข็งแกร่งของร่างกาย ฉะนั้นเขาจึงมีข้อได้เปรียบอย่างมากในเรื่องนี้ อีกทั้ง อินเตอร์ ก็ยังมีปัญหาในแดนหน้า หลังจากที่ โรเมลู ลูกากู หมดสัญญายืมตัวกับทัพ ‘งูใหญ่’ และพวกเขาก็ไม่สามารถซื้อขาดจาก เชลซี ทำให้ยักษ์ใหญ่ เซเรีย อา ต้องการหาศูนย์หน้าประเภทนี้มาแทนที่

โดยผลงานล่าสุด มาร์คัส ตูราม พา อินเตอร์ มิลาน เอาชนะคู่แข่งตัวฉกาจร่วมเมืองอย่าง เอซี มิลาน ไป 5-1 โดยยิงได้อีก 1 ประตู และได้รับคำชมอย่างมากจากสื่อรวมไปถึงแฟนบอล ว่าเขาเป็นที่ผู้เล่นที่ครบเครื่อง ทั้งการจบสกอร์  ลูกกลางอากาศ และการปะทะกับเซ็นเตอร์ฝ่ายตรงข้าม

ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องคอยดูว่า ‘ทายาทแชมป์โลก’ จะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน และจะพัฒนาไปได้อีกหรือไม่? เนื่องจากนี้เป็นแค่เพียงการเริ่มต้นซีซั่นใหม่ของเขาใน เซเรีย อา และ อินเตอร์ มิลาน ยังคงมีเกมให้ลงเล่นอีกมากในฤดูกาล 2023-24

เขียนโดย The Lite Team.