เปิดประตูแอนฟิลด์! เตรียมความพร้อม หลังเบรคทีมชาติ
ลิเวอร์พูล เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างสวยงาม โดยเก็บไปได้ 10 จาก 12 คะแนน ใน 4 เกมแรก ซึ่งผ่านการดวลกับ เชลซี, นิวคาสเซิล และ แอสตัน วิลล่า มาแล้วด้วย
ช่วงเบรคทีมชาติทุกครั้ง สิ่งที่ต้องภาวนา นั่นก็คืออาการบาดเจ็บของนักเตะ ที่หวังว่า จะกลับมาครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งถึงตอนนี้ ยังไม่มีรายงานว่าใครเป็นอะไร
ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องลงเล่นอีก 7 แมตช์ ก่อนจะต้องปล่อยตัวให้ลูกทีม กลับไปรับใช้ประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง โดยเกมแรกวันเสาร์นี้ ‘หงส์แดง’ จะต้องบุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน สังเวียนที่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เราปราชัยอย่างย่อยยับ 3-0 ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนกุนซือจาก จูเลียน โลเปเตกี เป็น แกรี่ โอนีลล์ แล้วก็ตาม พ่อหนุ่มคนนี้ก็เคยเอาชนะ ลิเวอร์พูล สมัยคุม บอร์นมัธ อยู่ดี
หลังจากนั้น เราจะลุยศึก ยูโรป้า กับ แอลเอเอสเค ลินซ์ จาประเทศ ออสเตรีย และจะได้เล่นที่ แอนฟิลด์ สองเกมต่อเนื่องโดยพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในโปรแกรมลีก และ ปะทะ เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึก คาราบาว คัพ ที่หากพ่ายแพ้จะหมดสิทธิลุ้นแชมป์ไปหนึ่งถ้วยทันที
คราวนี้ ลิเวอร์พูล จะพบกับ โปรแกรมยากคือออกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ที่ถึงแม้จะศูนย์เสีย แฮร์รี่ เคน แต่ว่า อังเก้ ปอสเตโคกลู ก็ปลุกทีมขึ้นมาให้เล่นด้วยพลังงานอันเหลือล้น ผสานกับความสามัคคี ที่มีมากขึ้นกว่าเดิม
จบแมตช์นี้ จะได้ขั้นกลาง ในรายการยุโรป กับ ยูเนียน แซงต์-จิลัวส์ จาก ประเทศเบลเยียม ซึ่งถึงตรงนี้ ผมคาดหวังว่าเราจะใช้นักเตะตัวสำรองลงเก็บ 6 คะแนนเต็มได้ เพื่อความผ่อนคลายในช่วงโปรแกรมอัดแน่นเดือนตุลาคม
ลิเวอร์พูล จะลงเล่นนัดสุดท้ายก่อนเบรคทีมชาติ ครั้งต่อไปกับ ไบรท์ตัน ทีมที่เล่นเกมรุกได้ดุดันขนาดที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังต้องออกมาชื่นชม ซึ่งสาวก ‘หงส์แดง’ คงรู้ถึงความยอดเยี่ยมของทัพ ‘นกนางนวล’ เป็นอย่างดี เพราะถึงตอนนี้ เราไม่ชนะพวกเขามา 3 นัดติด และยังมีนัดที่โดนสอนบอล 3-0 เมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย
สังเวียนต่อเนื่อง 7 เกมนี้ ความคาดหวังของผมในฟุตบอลถ้วยคือชนะรวด เพื่อลุ้นแชมป์ต่อไป ส่วนในพรีเมียร์ลีก 4 นัด หากคิดแค่ท็อปโฟร์ สัก 8 แต้มถือว่าสวยหรู แต่ถ้าอยากจะหวังมากกว่านั้น 12 คะแนนคือเป้าหมายเดียว เพราะว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ เขาไม่พลาดง่ายๆแน่ๆ
เขียนโดย The Lite Team.