แน่นอนว่าการไปเยือนทั้ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ และ เซนต์เจมส์ปาร์ค ไม่ใช่เรื่องง่าย แถมหนึ่งในเกมที่ แอนฟิลด์ ยังเป็น แอสตัน วิลล่า ที่เก็บคะแนนได้เป็นอันดับสอง นับตั้งแต่เริ่มปฏิทินปี 2023 อีกด้วย เพราะฉะนั้นการชนะ 3 เสมอ 1 จึงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร หงส์แดง สุดๆ

เรามามองเจาะลึกกันที่แต่ละตำแหน่งกันดีกว่า เริ่มต้นที่ผู้รักษาประตู อลิสสัน เบ็คเกอร์ นี่คือคนที่โชว์ฟอร์มได้เด็ดดวง ชนิดที่เซฟจน โกล์มือสองท้อว่าถ้าพี่ไม่เจ็บ ผมคงไม่ได้เล่น

แผงหลัง คู่เซ็นเตอร์ที่รักษาคลีนชีตได้ กลับกลายเป็น ‘ดับเบิ้ล โจ’ มาติป กับ โกเมซ ส่วน ฟาน ไดจ์ค ยังต้องลุ้นว่าจะถูกแบนเพิ่มจากการแจกฟักให้กรรมการหรือไม่ ส่วน โคนาเต้ ที่ควรเป็นเดอะแบก ก็เจ็บไปก่อน 

ทางด้านแบ็คสองข้าง โรเบิร์ตสัน ยังสับสนไปบ้าง ตอนหุบมาเล่นเซ็นเตอร์ตัวซ้าย ส่วน เทรนต์ นี่สามารถทำให้แฟนบอล เป็นไบโพล่า ได้เลย เพราะมีทั้งลูกเปิดสวยๆอย่างกับ เปียโล่ แต่บางทีก็โชว์ฮา จนพาเสียประตูไปแล้วสองครั้ง

ขยับมาที่กองกลาง ตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนผ่านในซัมเมอร์นี้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นว่าเขาคือตัวหลักในบทบาท ‘เบอร์ 6’ อีกคนอย่าง โซบอสไลซ์ นี่เด่นจนใครๆก็ต้องหลงรัก ส่วน เอ็นโด ยังต้องใช้เวลาปรับตัว และ กราเวนเบิร์ช ต้องรอโอกาสหลังเบรกทีมชาติ

ตัวเก่าอย่าง โจนส์ กับ เอลเลียต ดูนิ่งขึ้นเมื่อมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาประคอง ส่วน ติอาโก้ และ ไบจ์เซติช รอฟิตก็พร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกเช่นกัน นั่นเท่ากับว่า เรื่องปริมาณไม่ใช่ปัญหา ส่วนเรื่องคุณภาพ ต้องมารอวัดตอนมีตัวเจ็บอีกครึ่ง ซึ่งอย่ามีเลยจะดีที่สุด

แดนหน้า ไม่มีอะไรต้องพูดเยอะ 5 คน 5 สไตล์ มีแค่ ซาล่าห์ ที่จะปักหลักเป็นตัวจริง แล้วที่เหลือหมุนเวียนตามรูปแบบการเล่นได้เลย

เชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะมีผลงานที่ดีกว่า ซีซั่นที่แล้ว แต่ว่าปัจจัยสำคัญคืออาการบาดเจ็บ ที่ถ้าไม่มีเข้ามา ก็น่าจะพอการันตี ตำแหน่งท็อปโฟร์ ได้อีกครั้ง และเมื่อคนเรามีสิทธิจะฝัน ถ้าอย่างนั้นก็ขอแอบหวังไกลๆ ถึงแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 บ้างแล้วกัน

เขียนโดย The Lite Team.