Gooner Journey: อาร์เซนอล กำลังมาถูกทาง?
หากย้อนกลับไปสักประมาณ 3 ปีที่แล้วหรือมากกว่านั้น ใครจะคาดคิดว่า อาร์เซนอล ทีมนี้จะก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์เต็มตัวได้ในฤดูกาล 2022/2023 แต่แล้วทุกอย่างก็ถูกพิสูจน์ด้วยผลงานในสนาม โดยเฉพาะ ณ เวลานี้คงไม่มีใครกล้าสบประมาทพวกเขาอีกต่อไป
หลังจากได้รับชมเกมที่บุกไปเฉือน คริสตัล พาเลซ 1-0 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเหลือนักเตะเพียงแค่ 10 คน ผู้เขียนก็ฉุกคิดขึ้นมาพร้อมกับคำถามในใจว่า ทำไมสภาวะความนิ่งแบบนี้มันเกิดขึ้นกับกลุ่มนักเตะและสโมสรที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ กลับกันถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่วายคงโดนยิงตีเสมอไปแล้ว และนี่คือคำตอบที่ผมลองวิเคราะห์ออกมาเป็นหัวข้อดูครับ
1.บอร์ดบริการยอมลงทุนเพิ่มมากขึ้น
หากย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แฟนบอลคงเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้ไม่ใช่น้อยหรืออาจจะเกิดอาการน้อยใจว่าทำไมทีมรักของเราไม่มีเงินถุงเงินถังแบบทีมอื่นเขา การจะซื้อนักเตะสักหนึ่งคนมันช่างยากเย็นเข็ญใจ งบประมาณที่มีแบบจำกัดจำเขี่ย แค่การจะไปแย่งนักเตะดาวดังกับทีมอื่นจึงไม่มีความเป็นไปได้ แต่เดี๋ยวก่อน! ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุดจะเห็นได้ว่าบอร์ดบริหารเข้าใจตรงนี้มากขึ้น มีการให้งบประมาณนำเข้านักเตะให้แก่ผู้จัดการทีม ทำให้สโมสรมีกำลังเม็ดเงินต่อสู้เพื่อแย่งชิงนักเตะที่ตรงตามสเปกของ มิเกล อาร์เตต้า และผลตอบแทนก็คือ"เหล่าบรรดาแข้งใหม่สามารถเข้ามายกระดับทีมได้ทันที"
2.ไม่ขายนักเตะคนสำคัญ
ตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมาถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกจัดว่าเป็นทีมใหญ่ของศึกพรีเมียร์ลีก แต่ก็มีปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผู้เล่นคนสำคัญเอาไว้กับทีมเสมอ เมื่อถึงคราวจบฤดูกาลเหล่านักเตะที่ทำผลงานได้ดีมักจะถูกขายเพื่อระดมเงินเข้าสโมสร ส่งผลให้ระบบการเล่นที่กำลังไปได้ดีกลับเสียสมดุลเอาดื้อๆ ครั้นจะไปหาตัวแทนก็ยากลำบาก ทุกอย่างจึงเป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่เสมอ แต่ในเวลานี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องปล่อยนักเตะตัวหลักอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งไปพร้อมๆกับพัฒนาผู้เล่นเยาวชนจนก้าวขึ้นมาแบกทีมอยู่หลายคนดั่งเช่นปัจจุบันนี้
3.บรรดาผู้เล่นเด็กหนุ่ม
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า อาร์เซนอล คือหนึ่งในสโมสรที่มักจะให้โอกาสดาวรุ่งขึ้นมาโชว์ฝีเท้ากันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโปรแกรมฟุตบอลถ้วยที่ผู้จัดการทีมเลือกส่งผู้เล่นเหล่านี้ลงสนาม และหากใครที่ฟอร์มเข้าตาก็มักจะถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ทันที แต่ในระยะเวลาที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าหลายสิ่งยังคงไม่ลงตัว ทำให้เด็กหลายคนที่ดูจะไปได้ดีกลับยืนระยะไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องค่อยๆหายออกไปจากทีม แต่ในยุคนี้สโมสรมีการบริการจัดการทีมเยาวชนที่ดีมาก ผลผลิตที่สั่งสมมาเริ่มออกดอกออกผลไปในทิศทางที่ดี ยกตัวอย่างเช่น เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และ เอมิล สมิธ โรว์ พวกเขาเหล่านี้สามารถลงเล่นกับชุดตัวจริงได้อย่างไม่เกรงกลัวใคร และด้วยระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมานานจึงทำให้ผู้เล่นเหล่านี้ส่งเสริมการพัฒนาฝีเท้าไปและเล่นได้อย่างเข้าขารู้ใจกัน
4.มิเกล อาร์เตต้า ผู้ปลุกปั้นปีศาจตัวน้อย
กว่าหลายฤดูกาลแล้วที่ อาร์เซนอล ไม่สามารถแย่งชิงพื้นที่ฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีก จนกระทั่งพบเจอกับ อาร์เตต้า กุนซือชาวสแปนิช คือบุคคลที่มีส่วนสำคัญที่สุดกับผลงานของสโมสร แม้ว่าในช่วงแรกที่เข้ารับงานคุมทีมต้องเจอกับมรสุมลูกใหญ่ รวมถึงความไม่เชื่อในฝีมือของเขา เคยมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่จนเกือบถูกไล่ออกจากสโมสร แต่เมื่อทุกอย่างผ่านไป คลื่นลมเริ่มสงบลง ทุกอย่างที่เขาเฝ้าทำมาตลอดมันกลับส่งผลที่ยิ่งใหญ่ นักเตะทุกคนเล่นกันด้วยระบบที่ลงตัว มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่ยังคงซึ่งรูปแบบการครองบอลที่งดงาม ส่งผลให้สโมสรกลับไปยืนบนหัวตารางของศึกพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง
เชื่อว่าการพลาดแชมป์ในบั้นปลายฤดูกาลที่แล้วคือผลกระทบอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้เหล่าบรรดาผู้เล่นของสโมสรตระหนักได้ว่าพวกเขาควรจะทำเช่นไรหากหวังครอบครองแชมป์ลีกที่ห่างหายมานานถึง 20 ปี "การผิดพลาด คือ การเข้าใกล้ความสำเร็จ" ประโยคนี้ยังคงคลาสสิคเสมอ
เขียนโดย The Lite Team.