เลาะรั้วปีศาจแดง: จาก ฮีโร่ สู่ ซีโร่ ของ ‘แฮร์รี่ แม็กไกวร์’
ไม่น่าเชื่อว่าจากนักเตะที่ย้ายมาด้วยค่าตัวสถิติของกองหลัง และเป็นแกนหลักของสโมสรในช่วงแรก จะกลับกลายมาเป็นที่ไม่ต้องการของแฟนบอล ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 4 ฤดูกาล
นักฟุตบอลคนนั้นก็คือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ นั่นเองครับ จากนักเตะค่าตัว 80 ล้านปอนด์ที่ย้ายมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาล 2019-20 และย้ายมาได้เพียงครึ่งฤดูกาล ก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดการทีมในขณะนั้นอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ แต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม จนมาถึง ณ ปัจจุบันที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเอาอย่างไรต่อไป
ในซีซั่นแรกที่ปราการหลังรายนี้ได้ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ครบทุกนาทีทั้ง 38 นัด พาทีมจบในอันดับที่ 3 และได้สิทธิ์ไปเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ซีซั่นต่อมา เขาพาทีมจบด้วยการเป็นรองแชมป์ลีก รวมถึงยังได้เข้าไปชิงในถ้วย ยูโรป้าลีก อีกด้วย
ช่วง 2 ฤดูกาลแรก แม็กไกวร์ เป็นนักเตะคนสำคัญที่ทีมจะขาดไปไม่ได้เลย ซึ่งเห็นได้จากสถิติการลงสนามทุกนาทีติดต่อกัน 71 นัดใน พรีเมียร์ลีก และนั่นเป็นสถิติที่มากที่สุดของ ‘ปีศาจแดง’ เทียบเท่ากับ แกรี่ พัลลิสเตอร์ ตำนานของสโมสร
จากนั้นกราฟของเขาก็เริ่มที่จะพุ่งลงในฤดูกาลที่ 3 โดยที่เกมรับของทีมยุ่ยยิ่งทิชชู่สีชมพูที่เอาไว้ตักปลาทองตามงานวัดเสียอีก พวกเขาจบในอันดับที่ 6 และเสียไปถึง 57 ประตูในลีก ซึ่งเป็นการเสียประตูมากที่สุดของสโมสรในรอบ 43 ปี
แน่นอนว่าการเปลี่ยนโค้ชกลางฤดูกาลนั้นก็ย่อมจะส่งผลมาด้วยเช่นกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากองหลังทีมชาติอังกฤษก็ฟอร์มตกลงไปอย่างมากเช่นกัน โดยที่ตัวเขาเล่นผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตูถึง 16 ประตูในซีซั่นนั้น
พอเข้าสู่ฤดูกาลที่ผ่านมา ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ เอริก เทน ฮาก ได้เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด และก็กลายเป็นความบรรลัยของ แม็กไกวร์ อย่างแท้จริง
เฮดโค้ชชาวดัตช์ ลองใช้งานแข้งวัย 30 ปียืนปักหลักในแนวรับให้กับทีมในช่วง 2 เกมแรกของฤดูกาล ปรากฏว่าเปิดบ้านแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน 2-1 ตามมาด้วยการแพ้ เบรนท์ฟอร์ด อย่างเละเทะไปด้วยสกอร์ 4-0
พอในเกมที่ 3 เขาให้ศิษย์ที่เพิ่งย้ายตามกันมาอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยืนคู่กับ ราฟาเอล วาราน และกลายเป็นว่าสามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล มาได้ จากนั้น แม็กไกวร์ ก็หลุดจากสารบบตัวจริงเป็นการถาวร
ซึ่งการเป็นตัวเลือกรองจากนักเตะในตำแหน่งเดียวกันนั้นยังพอที่จะรับได้ แต่ไปๆมาๆนักเตะในตำแหน่งแบ็กซ้ายอย่าง ลุค ชอว์ ยังได้โอกาสในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กก่อนเจ้าตัวอีกต่างหาก
ท้ายที่สุดแล้วในฤดูกาล 2022-23 เขาได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 16 นัด โดยได้ลงเป็นตัวจริงเพียง 8 นัดเท่านั้น
ล่าสุดในช่วงต้นซัมเมอร์ กุนซือหัวใสก็ประกาศริบปลอกแขนกัปตันทีมของเขาไป และส่งต่อให้กับ บรูโน่ แฟร์นานเดส ซึ่งมันเป็นเหมือนดั่งสัญญาณอะไรบางอย่างที่คนเป็นโค้ชส่งไปให้กับกองหลังรายนี้
แน่นอนว่าเมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เป็นใครก็ต้องอยากจะย้ายทีมหนีทั้งนั้น และตัวของสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พร้อมจะปล่อยออกไป เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 190,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
พวกเขาตั้งราคาเอาไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ แต่ก็มีเพียง เวสต์แฮม ที่เป็นข่าวว่าได้ยื่นข้อเสนอรอบแรกมาที่ 20 ล้านปอนด์ แต่ก็ถูกปัดตกไป และก็ได้ยื่นเข้ามาใหม่อีกครั้งที่ 30 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ ‘ผีแดง’ พอใจและตอบตกลง
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวของ แม็กไกวร์ เองแล้ว ว่าเขาจะยอมไปเล่นกับ ‘ขุนค้อน’ ซึ่งเป็นทีมระดับกลางตารางหรือไม่ รวมถึงอาจจะต้องยอมลดค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลอีกด้วย แต่ก็เพื่อแลกกับโอกาสในการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปลุยในฟุตบอล ยูโร ที่จะมีขึ้นหลังจบฤดูกาลนี้
ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ ก็เป็นได้ ขอเพียงแค่ตัวเขายืนหยัดที่จะสู้ต่อไป หรือท้ายที่สุด เขาอาจจะเลือกที่จะอยู่นับเงินกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไปก็ได้ มีแต่ แม็กไกวร์ เท่านั้นแหละครับที่จะให้คำตอบนี้ได้
เขียนโดย The Lite Team.