ชวนคุยก่อนเกม: บิ๊กแมตช์แรกของซีซั่น ‘สิงห์’ ชน ‘หงส์’
พรีเมียร์ลีก กลับมาเปิดฤดูกาลได้เพียงไม่กี่วัน ก็มีโปรแกรม ‘บิ๊กแมตช์’ มาให้เราได้รับชมกันเลย และนั่นคือเกมที่ เชลซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล
เพียงแค่สัปดาห์แรกของฤดูกาล ก็มีฟุตบอลคู่ใหญ่ให้เราได้ติดตามกันเลยในทันที โดยจะเป็นการเปิดสังเวียน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ ‘สิงห์บลูส์’ รับมือกับ ‘หงส์แดง’ นั่นเองครับ
เมื่อซีซั่นที่แล้ว ทั้ง 2 ทีมทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมของเสี่ย ท็อดด์ โบห์ลี่ ที่ทุ่มทุนลงเม็ดเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล แต่ก็ทำเพียงจบในอันดับที่ 12 ของตารางคะแนน ซึ่งเป็นอันดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 เลยทีเดียว
ทางด้านของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เองก็ไม่ได้ดี แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น พวกเขาจบในอันดับที่ 5 ห่างจากพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ลีก ไปเพียงแค่ 4 คะแนน และก็เป็นการหลุดจากท็อปโฟร์เป็นครั้งที่ 2 ในยุคของกุนซือเฮฟวี่เมทัล โดยที่ครั้งแรกก็เป็นในฤดูกาลแรกที่เขาได้เข้ามาคุมทีม
มาที่เรื่องของตลาดซื้อขายนักเตะ ทีมจากลอนดอนได้ดึงนักเตะเข้ามาใหม่ 6 รายด้วยกัน นำทัพโดย คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งส่วนมากจะเป็นแข้งอายุน้อย ที่จะเน้นเอามาปั้นต่อเพื่อเป็นอนาคตให้กับทีม นอกจากนี้ยังมีการระบายนักเตะออกไปจากทีมเป็นจำนวนมากอีกด้วย หลังจากที่ซีซั่นก่อน ซื้อกันเข้ามาแบบหน้ามืดตามัวไปหมด
ข้ามมาดูที่ทีมแห่งลุ่มน้ำเมอร์ซีย์ พวกเขาเพิ่งได้นักเตะมาเสริมทัพเพียงแค่ 2 ราย ก็คือ โดมินิค โซบอสไล และ อเล็กซิส แม็กอลิสเตอร์ แต่ก็ปล่อยนักเตะออกไปเพียบ โดยเฉพาะตัวเก๋าอย่าง เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, มิลเนอร์ และ ฟีร์มีโน่
คราวนี้เรามาพูดถึงเรื่องความพร้อมของมวยคู่เอกในสัปดาห์นี้กันหน่อยดีกว่า
‘สิงโตน้ำเงินคราม’ มีปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะในช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา 3 รายด้วยกัน เริ่มที่ เวสลีย์ โฟฟาน่า ที่ยังไม่ทันจะได้อุ่นอะไรกับเขาเลย ก็เอ็นไขว้หน้าฉีก ต้องพักยาวกันไป ตามมาด้วย โนนี่ มาดูเอเก้ ที่มีอาการตึงบริเวณแฮมสตริง แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และรายสุดท้าย เอ็นคุนคู ที่มาเจ็บหัวเข่าเอาในเกมสุดท้ายที่เจอกับ ดอร์ทมุนด์ ก็ต้องพักยาวไปตามระเบียบ
นอกจากนี้ยังมีตัวที่เจ็บอยู่แล้วอย่าง อามานโด้ โบรย่า และ เบอนัว บาเดียชิล ก็ยังไม่น่าจะมีชื่อในเกมแรกของฤดูกาล
ส่วนทางฟากของ ลิเวอร์พูล ก็มีเพียงแค่ 2 รายเท่านั้น ซึ่งก็คือ ธิอาโก้ อัลคันทาร่า และ สเตฟาน บายเซติช แต่ก็มีข่าวดีที่ทั้งคู่ได้กลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแล้วเรียบร้อย และอาจมีชื่อบนม้านั่งสำรองก็เป็นได้
สถิติ 5 นัดหลังสุดที่เจอกันของคู่นี้ พวกเขากินกันไม่ลงเลยแม้แต่นัด เสมอทั้ง 5 นัด โดยที่มีถึง 4 นัดที่เป็นการเสมอกันแบบไร้สกอร์ ซึ่ง 2 เกมในนั้นเป็นนัดชิงบอลถ้วย และก็ไปจบด้วยการดวลจุดโทษที่ ‘หงส์แดง’ แม่นกว่าทั้ง 2 เกม
ผู้ชมอย่างเราก็ต้องมารอดูกันว่า เชลซี ในยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ ปอร์เช็ตติโน่ จะทำได้ดีแค่ไหน รวมถึง ลิเวอร์พูล ในยุคที่เริ่มผลัดใบ จะกลับมาผงาดเป็นทีมเต็งในการชิงแชมป์ได้หรือไม่ ‘4 ทุ่มครึ่งคืนนี้’ ได้รู้กันครับ
เขียนโดย The Lite Team.