แม้จะเป็นเพียงเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ไม่ได้ส่งผลต่อตารางคะแนนในพรีเมียร์ลีก แต่นี่คือสัญญาณที่ดีสำหรับ อาร์เซนอล กับการเพิ่มความมั่นใจก่อนการแข่งขันเกมลีกจะเริ่มต้นขึ้นสำหรับฤดูกาล 2023/2024

ผู้เล่น 11 คนแรกของ มิเกล อาร์เตต้า ส่งนักเตะใหม่ลงครบทั้ง ดีแคลน ไรซ์, เยอร์เรียน ทิมเบอร์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ซึ่งในรายหลังถูกส่งลงสนามในบทบาทกองหน้าหมายเลข 9 แทนที่ของ กาเบรียล เฆซุส ที่มีอาการบาดเจ็บต้องเข้ารับการผ่าตัด ขณะที่ ไรซ์ เล่นตรงกลางคู่กับ โธมัส ปาร์เตย์ ประจำการอยู่ด้านหลังของกัปตันทีม มาร์ติน โอเดการ์ด กาเบรียล มาร์ติเนลลี และ บูกาโย่ ซาก้า ที่ขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งในเกมรุก

รูปเกมในเวลาการแข่งขัน 90 นาทีเต็มไปด้วยคุณภาพสมดีกรีทีมเต็ง 1 และ 2 ของลีก ซึ่งรูปแบบวิธีการเล่นของทีม เรือใบสีฟ้า ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากฤดูกาลก่อน พวกเขาครองเกมใส่ อาร์เซนอล ซะเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง เมื่อศูนย์หน้าดาวซัลโวรายนี้ไม่สามารถง้างเท้ายิงให้ อารอน แรมส์เดล ต้องออกแรงเซฟได้เลยแม้แต่เพียงครั้งเดียว ผิดกับทางด้าน ฮาแวร์ตซ์ ที่แม้จะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมแต่ก็ได้โอกาสทองถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยิงไปติดเซฟ

ในมุมมองของผู้เขียนมองว่า อาร์เซนอล ในปีนี้น่าจะทำได้ดีมากกว่าซีซั่นที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาถึงขุมกำลังเชิงลึกที่ดีมากกว่าเดิม ประกอบกับการที่กุนซือชาวสแปนิชสามารถเลือกซื้อนักเตะได้ตรงตามความต้องการของตัวเอง น่าสนใจมากครับว่าผลงานของสโมสรจะดีเท่าเดิมหรือดีขึ้นเพียงใด แต่ก็อย่างที่รู้กันล่ะครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือ "การรักษามาตรฐานที่ต่อเนื่องและประสบการณ์ของนักเตะ" เพราะการแข่งขันเกมลีกเปรียบเสมือนการลงแข่งขันวิ่งมาราธอน ถ้วยแชมป์ไม่ได้มองหาคนที่วิ่งเร็วที่สุด แต่มันจะถูกมอบให้กับคนที่สม่ำเสมอที่สุด อีกทั้งลูกทีมของ อาร์เตต้า ยังมีศึกแชมเปียนส์ลีกที่พวกเขาห่างหายจากเวทีไปนานมากถึง 5 ปี

ในระยะหลังมานี้ อาร์เซนอล ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ แมนซิตี้ อยู่ข้างเดียวมาตลอด 8 เกมหลังสุด ดังนั้นจึงไม่แปลกครับที่เหล่าสาวกกูนเนอร์สจะแสดงอาการดีใจออกนอกหน้าเมื่อทีมรักสามารถปราบเซียนสโมสรทริปเปิลแชมป์จากฤดูกาลที่แล้วได้สำเร็จ แม้ว่าจะเป็นการเอาชนะจุดโทษก็ช่างเถอะ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าความพยายามของ อาร์เตต้า สามารถลดช่องว่างลงจากทีมอันดับหนึ่งในลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เขียนโดย The Lite Team.