เปิดประตูแอนฟิลด์! ยุคสมัยใหม่ของ ‘หงส์แดง’
เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล คงไม่ได้เตรียมใจมาก่อนที่จะเสีย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะช้าเร็ว การจากลา ก็ต้องมาถึง
ผมยังรู้สึกไม่ชินเหมือนกันนะครับ ที่พวกเรากำลังจะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ โดยไม่มีนักเตะเบอร์ 14 คนนี้ คอยแหกปากสั่งลูกทีม ถ้าย้อนเวลาไปหน่อย ช่วงที่ไม่มีแฟนบอลในสนาม เสียงของแกดังไกลจาก แอนฟิลด์ มาถึงประเทศไทย เลยทีเดียว ก็แหงสิดูผ่านทีวีนิ
แต่เมื่อ เฮนโด้ จากไปพร้อมกับ เจมส์ มิลเนอร์ แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องแต่งตั้งกัปตันทีมคนใหม่ ซึ่งผู้รับปลอกแขนไป ก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาด เพราะว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้พิสูจน์มาหมดแล้ว ว่าสามารถเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพเกมรับให้กับ ‘หงส์แดง’ ได้มากขนาดไหน หลังจากย้ายมาจาก เซาแธมป์ตัน ด้วยราคาแพง ถึงขนาดโดนแซวว่า “มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโง่ด้วย” แต่ก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการขึ้นไปทาบรางวัลบัลลงดอร์ แบบเป็นรองแค่ ลิโอเนล เมสซี่ มาแล้ว
ที่น่าสนใจคือ ‘ท่านรอง’ คนใหม่นี่แหละ ที่ก่อนหน้านี้ มีตัวเลือกน่าสนใจอยู่หลายราย แต่สุดท้ายกลายเป็น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาตัวรั่วเมื่อฤดูกาลก่อน แซงหน้ารุ่นพี่ในทีมอย่าง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ อลิสสัน เบ็คเกอร์ ชนิดที่โดนหลายฝ่ายค่อนขอดว่า “ถ้าไม่ได้เป็น สเกาเซอร์” จะได้รับหน้าที่ รองประธานสภา ‘หงส์แดง’ ไหม
การตัดสินใจของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุผลระยะยาว แน่นอนว่าในเคสของ ฟาน ไดจ์ค พวกเราคงได้เห็นความทุ่มเทมากขึ้น หลังจากปีที่แล้วมองบอล ประหนึ่งสาวสวยบนอินสตาแกรม และเมื่อวันที่เขาอำลาสโมสร ถึงตอนนั้น ลูกหม้อสโมสรหมายเลข 66 คงจะอายุประมาณ 26-27 ปี พร้อมเป็นผู้นำทั้งใน และนอกสนาม เป็นความภาคภูมิใจของชาวท้องถิ่น แบบที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เคยวาดประวัติศาสตร์เอาไว้
แล้วถ้า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้เป็นกัปตันทีมเมื่อไหร่ ถึงเวลานั้นท่านรองคงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก ‘สเกาเซอร์’ อีกหนึ่งรายอย่าง เคอร์ติส โจนส์ ที่ผมพร้อมเชียร์เป็นพิเศษอย่างแน่นอนครับ
เขียนโดย The Lite Team.