อดีตดาวรุ่งจาก โมนาโก รายนี้ ย้ายมาร่วมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อปี 2017 ด้วยสัญญายืมตัวมูลค่า 35 ล้านยูโร ก่อนจะซื้อขาดในปีถัดมาอีก 145 ล้านยูโร รวมเป็นการดึงตัวมหาศาลหลัก 180 ล้านยูโร

ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของ เอ็มบัปเป้ เพราะด้วยวัยยังไม่ถึง 20 ปี เจ้าตัวสามารถพาทีมชาติฝรั่งเศส เถลิงบัลลังค์แชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปี 2018 แต่เรื่องราวนอกสนามที่ทั้งข่าวลือ ผสมปนเปกับเรื่องจริง จนทำให้ถูกมองในทางไม่ดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหักอก เรอัล มาดริด เมื่อเดือนมิถุนายน 2022 เพื่อรับค่าเหนื่อยระดับสถิติโลก หลักล้านต่อสัปดาห์ กับทีมมหาเศรษฐีนี้ พร้อมกับเงื่อนไขคัดเลือกทีมงาน รวมไปถึงการจัดแผนของโค้ชทำให้ ฉายาของเขากลายเป็น ‘ประธานเป้’ ในชั่วข้ามคืน

แต่ถึงจะโดนวิจารณ์ด่ายังไง ผลงานของแข้งวัย 24 ปี รายนี้ ก็ไม่เคยมีเครื่องหมายคำถาม เพราะว่าในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด เขาแบกขุนพล ‘ตราไก่’ เข้ารอบชิงได้อีกครั้ง แม้ว่าจะต้องผิดหวังแต่การที่แฮททริคได้ในเกมตัดสินแชมป์ พร้อมกับรับรางวัล ดาวซัลโว มาปรับดับตู้อีกใบ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะพูดถึงฝีเท้าของเจ้าตัว โดยไม่ต้องปริปากสักคำ

ทว่าไอ้เรื่องที่พูดดันกลายเป็น การโจมตีสโมสรต้นสังกัด พร้อมกับบีบบังคับให้ปล่อยตัวฟรีในซัมเมอร์หน้า ก็ดูจะเป็นเรื่องใจร้ายกับ ‘เปแอสเช’ มากเกินไป เพราะถึงแม้ว่าจะรวยล้นฟ้าอย่างไร มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเสียนักเตะหมายเลขหนึ่งของทีมไปแบบไม่ได้สตางค์แดงเดียว

ล่าสุด เอ็มบัปเป้ ไม่มีชื่อมาร่วมพรีซีซั่นกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ทวีปเอเชีย นั่นบ่งบอกถึงสถานการณ์ทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ซึ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้าเราคงจะได้ข้อสรุปทั้งหมด

เชื่อว่าสถานีต่อไปของแข้งรายนี้ คงจะหนีไม่พ้น เรอัล มาดริด และเมื่อถึงเวลานั้นการขับเคี่ยวแย่งรางวัลบัลลงดอร์ คงยากที่จะมีใครมาแย่งไป ยกเว้นยอดมนุษย์อีกคนอย่าง เออริ่ง ฮาแลนด์

เขียนโดย The Lite Team.