เด็กเก็บบอล : ฟูลแบ็คสังหาร ‘ดาวิด อลาบา’
ถ้าหากจะกล่าวถึงหนึ่งในนักเตะทีม ‘ราชันชุดขาว’ ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์มากมาย คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงแบ็คซ้ายตัวเก่งคนนี้ ดาวิด อลาบา เขาย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2021 ด้วยสัญญา 5 ปี เจ้าตัวได้ประสบการณ์ความสำเร็จอย่างล้มหลามกับยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์ และคงไม่มีใครปฏิเสธว่าเขาคือหนึ่งในฟูลแบ็คที่ดีที่สุดในโลก ณ ช่วงเวลานึง
อลาบา เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของ ‘เสือใต้’ ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และมีส่วนสำคัญในการช่วยอดีตต้นสังกัดคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 10 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย, เดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ 5 สมัย และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2 สมัย
ในวัยเด็กเขาเล่นฟุตบอลที่สนามหญ้าหรือไม่ก็ที่สนามเด็กเล่นกับเด็กคนอื่นๆ ทุกวัน จอร์จ อลาบา ผู้เป็นพ่อ เล่าถึงก้าวแรกสู่วงการฟุตบอลของเขาว่า “พ่อแม่คนอื่นๆ ได้เห็นและตื่นตาตื่นใจกับฝีเท้าของเขามาก" จากนั้น อลาบา ก็ถูกผลักดันให้เข้าฝึกหัดกับสโมสรท้องถิ่น จนกระทั่งมีโอกาสเข้าไปฝึกกับทีมออสเตรีย เวียนนา เมื่ออายุ 10 ขวบ เขามีชื่อเป็นตัวสำรองของทีมเมื่ออายุได้เพียง 15 ปี และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ เจ้าตัวก็บอกลาประเทศบ้านเกิดเพื่อมาอยู่ประเทศเยอรมัน
ครั้งหนึ่งฟูลแบ็ครายนี้เคยออกมากล่าวว่า "เขาเกลียด บาเยิร์น มาตลอด" อลาบา กล่าว เขาเคยปฏิเสธข้อเสนอของทีมจ้าวสถิติแชมป์บุนเดสลีกามาแล้วถึงสองหน ก่อนตัดสินใจรับข้อเสนอในที่สุด พวกเขามีอุปกรณ์การซ้อมที่ยอดเยี่ยมที่สุดและนั่งรถบัสชั้นดีที่สุดมาแข่งฟุตบอลรายการเยาวชนทุกครั้ง และยังจากไปด้วยการฉลองชัยอีกต่างหาก หลังถูกแมวมอง บาเยิร์น ตามดูฟอร์มที่เก่งเกินวัย สุดท้ายเจ้าตัวก็ถูก ‘พี่เสือ’ งาบเข้าถ้ำด้วยข้อเสนอครั้งที่ 3
จริงๆแล้ว อลาบา คือนักเตะสารพัดประโยชน์ที่แท้จริง เริ่มจากการเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ให้ทีมออสเตรีย เวียนนา จนติดทีมชาติชุดเยาวชน เขาเคยลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับให้กับ ฮอฟเฟนไฮม์ และเล่นเซ็นเตอร์แบ็กให้กับ บาเยิร์น ซึ่งสุดท้ายแล้วตำแหน่งแบ็กซ้ายกลายเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับเขามากที่สุด โดยคนที่ฟังธงตำแหน่งนี้ให้ก็คือกุนซือดัตช์แมนผู้โด่งดัง หลุยส์ ฟาน กัล นั้นเอง
พรสวรรค์ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ อลาบา ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วก็คือทัศนคติที่ดีและแพสชั่นอันสูงส่ง เขาไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเมื่อต้องเลื่อนขั้นขึ้นมาสู่ฟุตบอลในระดับที่สูงกว่าเดิม
เขาคือนักเตะที่รับแรงกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรับหน้าที่สังหารจุดโทษในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2011/12 ซึ่งเป็นต้นสังกัดในปัจจุบันของ อลาบา ทั้งที่เพิ่งจะเป็นฤดูกาลแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ และในปี 2015 ก็ยังโชว์ความใจนิ่งเป็นน้ำ ซัดจุดโทษสไตล์ปาเนนก้าพาทีมชาติผ่านทะลุรอบคัดเลือกศึกยูโร 2016 จนเป็นที่ประทับใจของหลายๆ คนในวงการลูกหนัง
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ อลาบา เท่านั้น ทั้งความสามารถ พรสวรรค์ ความเป็นนักสู้ของเขา คำชื่นชนต่างๆ ที่จะสรรเสริญชายรายนี้ ต่อให้พูดไปก็ไม่มีวันหมด และเขาคือหนึ่งในฟูลแบ็คที่ดีที่สุดในโลก ณ ช่วงเวลานึง และเชื่อกันว่าแฟนบอลทั้งทีมชาติออสเตรีย, บาเยิร์น และ ‘โลสบลังโกส’ จะจดจำเขาในฐานะผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีม
เขียนโดย The Lite Team.