ก่อนหน้านี้ทางบริษัท ไทยลีก เรียกตัวแทนเข้าไปประชุมในประเด็นปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของการแข่งขัน ที่มีคนยื่นประมูลต่อฤดูกาลเพียง 50 ล้าน ทำให้เหล่า 16 ทีมต้องการแยกตัวออกไปบริหารจัดการกันเอง แต่สุดท้ายการแยกตัวออกมาก็ยังไม่เกิดขึ้น ณ วันนี้ เนื่องจากมีเงื่อนไขเรื่องเวลาเข้ามาบีบ แต่ในอนาคตคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน 

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังค้างคาใจคือ ‘การถ่ายทอดสด’ ที่ยังคงไม่มีความชัดเจนเกิดขึ้นว่า แล้วไทยลีก หรือฟุตบอลไทยในลีกอื่นๆ จะอยู่ในช่องทางไหน ออนไลน์ หรือมีฟรีทีวีรับช่วงต่อ โดยจะมีการประชุมเกิดขึ้นกันในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ 

แต่ก็มีเสียงกระซิบเป็นข่าวลือออกมาว่า มีโอกาสสูงที่ การถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกของประเทศไทย ในฤดูกาลนี้ จะเกิดขึ้นโดยสโมสรเป็นผู้ถ่ายทอดสดเอง ผ่านช่องทางต่างๆ ของสโมสร ซึ่งก็จะกลับไปเหมือนในช่วงที่เกิดเหตุการณ์โควิด 

ซึ่งหากพูดกันตามตรงการถ่ายทอดสดเองไม่ได้เป็นผลดีใดๆ เลยต่อสโมสร โดยเฉพาะเหล่าสโมสรเล็กๆ ที่ไม่ได้มีทุนหนาอะไร เพราะสิ่งที่เพิ่มเข้ามาอย่างแน่นอนคือ ต้นทุนในการถ่ายทอด ที่เผลอๆ ก็หลายหมื่นบาทต่อนัด หรืออาจจะขึ้นไปแตะหลักแสนบาท หากต้องการคุณภาพในระดับที่ดี นั้นหมายความอยู่ที่สโมสรก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มหลายแสนบาทต่อฤดูกาล โดยที่แถบจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย 

หลายคนอาจจะแย้งว่า สโมสรก็สามารถขายสปอนเซอร์เอาเองก็ได้ แต่หากไปดูด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ หากคุณไม่ใช่ทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็ยากที่จะหาใครเข้ามาสนับสนุน ลำพังแค่การสนับสนุนทีมปกติก็หากันเลือดตาแทบกระเด็น และสปอนเซอร์หลายๆ รายก็หวังเข้ามาเพื่อให้โลโก้ หรือแบรนด์ของพวกเขา อยู่ในการถ่ายทอดสดในระดับประเทศ ไม่ใช่กับแค่การถ่ายทอดสดของสโมสร 

หากไปพูดถึงมุมมองสำหรับแฟนบอล แน่นอนหลายๆ สโมสรคงเลือกช่องทางการถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook หรือ Youtube ของสโมสร ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้แฟนฟุตบอลได้ดูแบบฟรีๆ แต่หากคิดในกรณีที่แย่ที่สุดคือแต่ละสโมสรเลือกที่จะเก็บเงินค่า Subscribe เป็นรายนัดหรือรายเดือน หมายความว่าหากคุณเป็นคอบอลตัวยงที่ต้องการดู ไทยลีก ทุกนัด คุณก็จะต้องเสียเงินสมัครสมาชิกให้กับทั้ง 16 สโมสร รวมๆ ต่อเดือนก็อาจจะหลักพันบาท 

การที่แต่ละสโมสรจะต้องมารับภาระถ่ายทอดสดเอง ซึ่งแทบจะไม่มีลีกอาชีพลีกไหนในโลกทำ  เพราะเหมือนเป็นการผลักภาระให้กับทางสโมสรบริหารจัดการหาเงินเอาเอง แน่นอนมันเทียบได้ไม่เท่ากับการขายภาพใหญ่ทั้ง 16 ทีมอย่างแน่นอน โดยทาง ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  ก็ออกมาให้ความเห็นว่า หากสโมสรต้องถ่ายทอดสดเอง เหล่าทีมเล็กๆ ก็จะค่อยๆ ล้มหายตายจากกันไป และระบบลีกของไทย ก็จะตายลงไปในที่สุด

“ถ้าไม่มีถ่ายทอดสดสปอนเซอร์ก็ไม่เข้า เข้ามาแหละ แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้า เพราะตัวหลักคือการถ่ายทอดสดให้ทั่วประเทศได้เห็นแบรนด์ของเขาถ่ายกันเองทีมใหญ่ๆ ก็ได้เปรียบ ทีมเล็กๆ ก็จะค่อยๆ สูญหายไป ฉะนั้นโครงสร้างปัจจุบันหากเป็นแบบนี้อยู่ไม่มีวี่แววของการได้สิทธิประโยชน์ของการถ่ายทอดสด ทีมใหญ่ก็จะห่างขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเจ๊งทั้งระบบ”

เวลาอีก 1 เดือนที่แฟนบอลชาวไทยต้องมาลุ้นว่า ในฤดูกาลที่จะถึงนี้พวกเขาจะได้ดูฟุตบอลผ่านช่องทางใด และการตัดสินใจต่างๆ จากทาง ไทยลีก รวมถึงทั้ง 16 สโมสร ก็อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอนาคตฟุตบอลไทยว่าจะดิ่งลงเหว หรือมีสิทธิที่จะกลับไปฮิตติดลมบนอีกครั้ง