เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย ถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขี่ยทิ้งหลังจากไปให้สัมภาษณ์แบบ ‘ปากสุนัข’ เกี่ยวกับสโมสรเสียๆหายๆ ในรายการของ เพียร์ส มอร์แกน ช่วงก่อนฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์จะเริ่มขึ้น จนต้องย้ายหน้าแข้งมาโลดแล่นที่ตะวันออกกลาง

นาทีนั้นผู้คนต่างค่อนขอด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในทางลบ มากมายเช่น 

• “แก่แล้ว ไร้น้ำยาเล่นลีกยุโรป” 

• “ไปโกยตังค์”

• "ทีมระดับท็อปไม่มีใครเอา"

และอีกต่างๆนาๆ ที่ สุดยอดนักเตะรายนี้โดนด่าจากทุกสารทิศ แต่ถึงอย่างนั้นต้องยอมรับว่า ซาอุดิ โปร ลีก ได้รับความสนใจมากขึ้น เห็นได้ชัดจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งแม้แต่ในบ้านเราเองก็ซื้อเข้ามา ให้แฟนบอลได้ลุ้นผลสกอร์ไปด้วย

จนกระทั่งหลังจากปิดฤดูกาล พวกเขาได้สร้างแรงสั่นสะเทือนดั่งบั้งไฟพญานาคอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว คาริม เบนเซม่า เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ คนล่าสุด อย่างยิ่งใหญ่กับสโมสร อัล-อิตติฮัด ตามต่อด้วยสตาร์แชมป์โลกอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จาก เชลซี อีกคน

พูดถึงนักเตะจาก ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ แล้วยังมีอีก 3 รายที่ตบเท้าสู่ลีกนี้คือ คาลิดู คูลิบาลี่, ฮาคิม ซิเยค และ เอดูอาร์ เมนดี้ ซึ่งถ้าคิดว่าพวกเขาอายุแตะ 30 ปี กันหมดแล้วเลือกที่จะไปโกยเงินล่ะก็ รูเบน เนเวส ที่อยู่ในวัยกลัดมันจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็เก็บกระเป๋าบินเข้าซาอุเช่นกัน

ที่สำคัญคือดูเหมือนว่าจะยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะชื่อของนักเตะชื่อดังอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โรเมลู ลูกากู และ เนย์มาร์ จูเนียร์ ยังคงอยู่ในเรดาร์ของพวกเขา โดยทาง ซาอุดิ อาระเบีย มีโปรเจคต์ยักษ์ ชื่อว่า escapeSingleQuotวิชั่น 2030escapeSingleQuot และหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือการเป็นเจ้าภาพ escapeSingleQuotมหกรรมลูกหนังescapeSingleQuot ในปีนั้น ซึ่งมองยังไงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเพิ่งมีการจัดบนแผ่นดินตะวันออกกลางไป

แต่ถ้าฟีฟ่า เคยอนุญาตให้ ประเทศที่ไม่เคยเข้าร่วม แต่ได้เข้ารอบเป็นเจ้าภาพ แถมโยกไปเตะปลายปี จนกระทบลีกยุโรปมาแล้ว อะไรมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ถ้าเงินยัดก้นคณะกรรมการมากพอ..แหม เหตุการณ์มันคุ้นๆเหมือนกันนะ

เขียนโดย The Lite Team.