Gooner Journey: เล่าความหลัง อาร์แซน เวนเกอร์ ชายแก่ผู้เป็นที่รัก EP.2
ความเปลี่ยนแปลงภายในสโมสรตั้งแต่รากฐานก่อให้เกิดเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ทันที เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมหลังจากผ่านฤดูกาลแรกของ อาร์แซน เวนเกอร์
ย้อนไปในปี 1997-1998 อาร์เซนอล คว้าดับเบิ้ลแชมป์(พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ) ทำให้พวกเขาสามารถยกระดับขึ้นมาขับเคี่ยวกับยอดทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งครองหัวตารางฟุตบอลอังกฤษมาอย่างต่อเนื่องในก่อนหน้านั้น ด้วยส่วนผสมระหว่างผู้เล่นแนวรับจอมเก๋ากับผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง นิโคลาส์ อเนลก้า ที่เข้ามาเติมเต็มแนวรุกให้มีความอันตรายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาลูกทีมของ เวนเกอร์ ก็เข้าสู่ยุคทองอย่างเต็มตัว ลากมาจนถึงปีที่พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ลีกได้โดยไม่แพ้ใครเลย จารึกสถิติแรกนี้ในลีกแดนผู้ดีได้สำเร็จในฤดูกาล 2003-2004
อาร์แซน เวนเกอร์ เขียนในคำนำของหนังสือ “Invincible” เล่าว่า แชมป์ไร้พ่ายคือหนึ่งในความฝันของเขาเสมอมา เนื่องจากเขามีหลายเป้าหมายในอาชีพผู้จัดการทีม จึงทำให้ทุกอย่างต้องริเริ่มจากรายละเอียดเพียงเล็กน้อย และในที่สุดสัญญาณความสำเร็จได้ส่งเสียงเตือนเขาในฤดูกาล 2001-2002 ซึ่งทัพปืนใหญ่คว้าแชมป์ลีกได้โดยไม่เคยแพ้เกมเยือนเลย
ในช่วงพรีซีซั่นฤดูกาล 2003-2004 เวนเกอร์ เรียกประชุมผู้เล่นและให้ทุกคนวิเคราะห์ว่าทำไมพวกเขาถึงรักษาแชมป์ในปี 2002-2003 ไม่ได้ ลูกทีมบางคนอย่างเช่น มาร์ติน คีโอว์น พูดว่า "มันเป็นความผิดของคุณ คุณปล่อยให้พวกเรารู้สึกกดดันมากจนเกินไปกับคำว่า ต้องได้แชมป์โดยห้ามแพ้ใคร" อาร์แซน สวนกลับทันทีว่า "ทุกคนฟังนะ ที่ผมพูดแบบนั้นเพราะผมรู้ว่าพวกคุณทำได้ แต่พวกคุณต้องอยากทำให้มันเกิดขึ้นจริง และมันจะเป็นความอัศจรรย์อย่างมากถ้าพวกเราคือทีมแรกที่ทำสำเร็จ" หลังจากนั้นเหล่าบรรดานักเตะที่ได้ฟังคำพูดของผู้จัดการทีมต่างก็มีความเชื่อมั่นและเตรียมพร้อมกับการลงเล่นในทุกเกมด้วยความกระหาย ส่งผลให้ในซีซั่นดังกล่าว(2003-2004)พวกเขาก็ได้ครอบครองถ้วยรางวัลสีทองใบแรกและใบเดียวจากพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
หากเราพิจารณาถึงคุณสมบัติของผู้เล่นภายในทีมยุคนั้น ทุกคนล้วนมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อทุกอย่างถูกผสมผสานเข้าด้วยกัน พวกเขากลับเป็นทีมที่พิเศษมาก หลายคนอาจบอกว่าความสำเร็จมักมาพร้อมโชคชะตา แต่บางคนก็ไม่เคยเชื่อเรื่องอะไรแบบนั้น เพราะหากยกตัวอย่างกับแมตซ์สุดเดือดในตำนานที่พวกเขาต้องปะทะกับ แมนยู ก็คงเชื่อว่าโชคชะตามีส่วนอยู่บ้างพอสมควร กับเกมที่แฟนบอลตั้งชื่อว่า “Battle of Old Trafford” ติดตามกันต่อได้ใน EP.3 ครับ