เมื่อ ‘มาโน่’ กับ ‘ทีมชาติไทย’ ที่ลองแล้วลองอีก
ทีมชาติไทย เพิ่งเสร็จสิ้นโปรแกรมอุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ ไปมาดๆ ด้วยผลงานที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตัวของหัวเรือใหญ่ ที่จะมีทัวร์นาเมนต์สำคัญรออยู่ในช่วงต้นปีหน้า
‘ช้างศึก’ ลงเล่นไป 2 เกม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยออกไปเยือน ไชนีส ไทเป และฮ่องกง ในเกมแรกเก็บผลเสมอ 2-2 แบบเต็มไปด้วยเสียงก่นด่าของเหล่าแฟนบอลไปถึง ‘มาโน่ โพลกิ้ง’ ก่อนที่จะแก้ตัวได้ด้วยการเอาชนะ ฮ่องกง 1-0
ในโปรแกรมทีมชาติไทย รอบนี้ เฮดโค้ชชาวบราซิล เลือกที่จะไม่เรียกผู้เล่นจากยอดทีมอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ามาติดทีมเลยแม้แต่คนเดียว เนื่องด้วยเหตุผลว่า อยากให้ผู้เล่นของ ‘ปราสาทสายฟ้า’ ได้มีเวลาพักหลังจากทำศึกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งบอลีก และบอลถ้วย ทำให้ผู้เล่นตัวหลักขาดหายไปหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าดาวซัลโว ไทยลีก หรือธีราทร บุญมาทัน
เขาจึงเรียกผู้เล่นหน้าใหม่เข้าติดธงเป็นครั้งแรกอย่าง อนันต์ ยอดสังวาลย์ ที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการ ซีเกมส์ ครั้งที่ผ่านมา รวมถึง จักรกฤษ ลาภตระกูล ที่เล่นริมเส้นได้ทั้งสองฝั่งมาลองทีม นอกจากนี้ยังได้ 2 ผู้เล่นที่ค้าแข้งที่ เจลีก ทั้ง ‘ชนาคุง’ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และสุภโชค สารชาติ เข้ามา ทำให้ ทีมชาติไทย ชุดนี้แม้จะไม่ใช่ชุดฟูลทีม แต่ก็น่าชมอยู่ไม่น้อย
แต่ในเกมกับ ไชนีส ไทเป ที่ ฟีฟ่า แรงกิ้ง ห่างจาก ‘ช้างศึก’ ร่วม 40 อันดับ กลับไม่ได้เป็นรูปเกมที่ทำให้แฟนฟุตบอลชาวไทย มีความสำราญในการรับชมนัก เหล่าผู้เล่นที่ดูเหนือกว่าเอาแต่ต่อบอลไปมาตลอดทั้งเกม แต่ไม่มีโอกาสเข้าทำที่ดีเลย พวกเขามีเปอร์เซ็นการครองบอลสูงถึง 76 เปอร์เซ็น แต่โอกาสยิงกลับมากกว่า ไทเป เพียง 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่บอกได้เป็นอย่างดีว่า เกมรุกของ ทีมชาติไทย ไม่ดีเอาเสียเลยในพื้นที่สุดท้ายของสนาม
รวมถึงปัญหาเดิมๆ ในการรับมือลูกตั้งเตะ และลูกกลางอากาศ ด้วยนิสัยของ มาโน่ โพลกิ้ง ที่ชอบใช้กองหลัง ที่ออกบอลได้ดี ทำให้ส่วนมากเลือกที่จะขยับผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางลงมายืนเป็น เซ็นเตอร์แบ็ก ตั้งแต่สมัยคุม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ส่วนในทีมชาติไทย เขาก็เลือกใช้ กฤษดา กาแมน กองกลางตัวรับที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความแม่นยำในการออกบอล ถอยมายืนเป็นกองหลัง ทั้งๆ ที่มีความสูงเพียง 176 เซ็นติเมตรเท่านั้น ส่วนกองหลังตัวสูงใหญ่อย่าง เอเลียส ดอเลาะ กลับไม่ค่อยได้เป็นตัวเลือกแรกในทีมชาติไทย ยุคกุนซือรายนี้
และสุดท้าย ‘ช้างศึก’ ก็มาเสียประตูท้ายเกมจนได้จากจังหวะการเปิดลูกตั้งเตะเข้าไป และโดนโขกโหม่ง ทำได้เพียงเก็บผลเสมอ พร้อมกับคำถามที่ว่า พอหรือยังกับ มาโน่ หรือ มาโน่ จะลองตัวผู้เล่นไปถึงเมื่อไหร่ เพราะผลแพ้ชนะในช่วง ฟีฟ่า เดย์ ส่งผลถึงอันดับของทีมชาติไทย และหากไม่นับการเจอทีมจากอาเซียน ทีมชาติไทย ชนะในการเล่นเป็นเกมเยือนนัดสุดท้าย ต้องย้อนไปถึงช่วงปี 2019 เลยทีเดียว
แต่กุนซือรายนี้ก็มาแก้ตัวได้ในเกมกับ ฮ่องกง ด้วยการยอมเลือกใช้กองหลังมืออาชีพยืนด้วยกัน คือ เอเลียส ดอเลาะ กับเฉลิมศักดิ์ อักขี และได้ ฉัตรชัย บุตรพรม นายด่านตัวเก๋ากลับมายืนเฝ้าเสาอีกครั้ง ทำให้เกมรับแน่น แบบแฟนบอลดูได้อย่างสบายใจ (ไม่รวมช่วงท้ายเกม) แต่การยิงได้เพียงประตูเดียวก็ยังคงบ่งบอกถึงปัญหาในเกมรุกอยู่เหมือนเดิม
ตลอด 31 นัดที่ มาโน่ โพลกิ้ง ได้รับโอกาสคุม ทีมชาติไทย มีช่วงที่เขาพาทีมประสบความสำเร็จ ในรายการระดับภูมิภาคอย่าง ศึกชิงแชมป์อาเซียน แต่หากไปดูฟอร์มในระดับเอเชีย ทีมชาติไทย แทบจะไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้เลย โดยเฉพาะการออกไปเล่นนอกบ้าน
และศึกที่สำคัญที่สุดคือการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2023 ที่จะฟาดแข้งกันในช่วงเดือนแรกของปี 2024 โดย ทีมชาติไทย อยู่ร่วมกับ ซาอุดีอาระเบีย, คีร์กีซสถาน และโอมาน ศึกการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รอบนี้ มาโน่ ตั้งเป้าที่จะพา ไทย เข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์เป็นอย่างน้อย ซึ่งตัวเขาเองก็ถูกต่อสัญญาเพิ่มเติมมาให้ครอบคลุมกับการแข่งขันทัวร์นาเมนต์เป็นการพิเศษเสียด้วย
หากดูจากฟอร์มในช่วงที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างหน้าเป็นห่วง กับรูปแบบการเล่นตลอดการอุ่นเครื่องที่ผ่านมา แต่ มาโน่ ยังมีโอกาสได้ลองทีมอีกครั้ง ในช่วงเดือนกันยายน กับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ที่ได้ 3 ชาติ อย่าง อิรัก, อินเดีย และเลบานอน มาฟาดแข้งที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต้องมาดูว่า มาโน่ จะเลือกลองทีมอีกไหม หรือจะจัดเต็มชุดใหญ่ แบบพร้อมใช้งานสำหรับการลองทีมครั้งท้ายๆ ของเขา
เพราะแฟนบอล อยากเห็น มาโน่ จัดเต็มสักทีม ไม่ใช่เอาแต่บอกว่า ลองทีม หรือ ถึงแพ้ก็ไม่เป็นอะไร เพราะเป็นแค่การลองทีม
เขียนโดย The Lite Team.