กองกลางทีมชาติอังกฤษรายนี้ เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของ เคนนี่ ดัลกลิช ที่ยังอยู่ในทีมชุดปัจจุบัน โดยเข้ามาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2011 ด้วยวัยเพียง 21 ปี กับตำแหน่งปีกขวาดาวรุ่ง ที่ไม่ได้มีความเร็วเป็นจุดเด่น หรือลูกเปิดบอลอันแม่นยำ ทำให้ใครหลายคนต่างสงสัยว่าไอ้เด็กนี่ มีดีอะไร?

เวลาผ่านไป การมาถึงของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ทำให้มิดฟิลด์รายนี้กลายเป็นส่วนเกินทันที และเป็นส่วนนึงของข้อเสนอแลกตัวกับ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ จาก ฟูแล่ม แต่เจ้าตัวเลือกขอสู้ต่อ ในสถานะลูกหาบของกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จนเกือบจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013/14 

ซึ่งเมื่อมองไปในรายละเอียดแล้ว ช่วงท้ายฤดูกาลที่ เฮนเดอร์สัน โดนแบน 3 เกม ‘หงส์แดง’ เก็บได้เพียงแค่ 4 คะแนน จนสุดท้ายคว้าแชมป์ว่าวไปครอง

เข็มนาฬิกาไม่หยุดเดิน และ เจอราร์ด ตำนานกัปตันทีมต้องโบกมือลาสโมสร ปลอกแขนอันศักดิ์สิทธิ์ก็ตกมาอยู่กับเขาท่ามกลางเสียงครหาว่า “ไม่มีใครดีกว่านี้แล้วหรือ?” 

อย่างไรก็ตาม ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร ในที่สุด มิดฟิลด์ฉายา ‘อาแปะ’ รายนี้ ก็ได้นำทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ของสโมสรเมื่อปี 2019 ก่อนจะปลดล็อคโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกได้สำเร็จในอีกหนึ่งปีให้หลัง จนได้ซอยขายิกๆๆๆยกโทรฟี่มาครบทุกรายการ

แต่สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลย คือสังขารของทุกคนย่อมมีวันร่วงโรย และมิดฟิลด์หมายเลข 14 คนนี้ไม่ได้อยู่ในฟอร์มสะแด่วเหมือนก่อนอีกแล้ว ยังไม่รวมถึงความฟิตที่ไม่สามารถขึ้นให้สุดลงให้มิด เหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อนได้ และการมาของกองกลางในซัมเมอร์นี้ส่งผลให้ ตำแหน่งกัปตันทีมของเขาไม่อาจการันตีการเป็น 11 ตัวจริงได้อีกต่อไป

ด้วยวัย 32 ปี พร้อมกับความเข้าใจแผนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่เป็นรองใคร บางทีสถานะหลังจากนี้อาจจะต้องเปลี่ยนเป็น ตัวสำรองอเนกประสงค์ พร้อมลงเล่นในทุกตำแหน่งเหมือนกับที่ เจมส์ มิลเนอร์ เป็นให้มาตลอดก่อนหน้านี้ และผมมั่นใจเหลือเกินว่า นี่จะเป็นบทบาทที่ดีต่อตัวของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และสโมสรอย่างสูงสุด

เขียนโดย The Lite Team.