เส้นทางที่ต้องกลับไปเริ่มใหม่ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์
ความสนุกสนานในช่วงฟุตบอลลีกปิด คือการติดตามข่าวสารการซื้อขายตัวของแต่ละทีม และข่าวใหญ่ที่สุดช่วงนี้ คือการกลับมาค้าแข้งในบ้านอีกครั้ง ของนักเตะเบอร์หนึ่งอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์
การวัดมูลค่าของนักฟุตบอลสักคนหนึ่งย่อมประกอบด้วยหลากหลายปัจจัย แต่ถ้าเราอ้างอิงเว็บไซต์สักแห่ง ก็ขอยกข้อมูลจาก Transfermarkt เว็บที่แฟนบอลทั่วโลกใช้งานกัน ซึ่งจะมีข้อมูลสถิติต่างๆ รวมถึง Market Value ของนักเตะแต่ละบุคคล ที่ทำให้เราพอประเมินความโด่งดัง หรือความเก่งกาจได้พอประมาณ
สำหรับนักฟุตบอลชาวไทยที่มี Market Value คือ ‘เจ’ โดยมีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้าน มากกว่ากองหน้าดางรุ่งพุ่งแรงอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เกือบ 2 เท่า พร้อมด้วยสถิติต่างๆ ทำให้ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ คือนักฟุตบอลที่ดีที่สุดที่ค้าแข้งอยู่ และเป็นความภาคภูมิใจของแฟนบอลชาวไทยทุกคน พร้อมด้วยความหวังว่าเจ้าตัวจะพาตัวเองไปให้ได้ไกลที่สุด
กองกลางทีมชาติไทย เลือกย้ายออกจากเมืองไทย ไปหาความท้าทายครั้งใหม่ใน เจลีก ประเทศญี่ปุ่น กับ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมที่อยู่บนสุดของดินแดนอาทิตย์อุทัย ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2017 ‘ชนาคุง’ ใช้เวลาปรับตัวกับลีกใหม่เพียงไม่นาน ในฤดูกาล 2018 ที่เขาได้มีโอกาสลงเล่นเต็มๆ ก็โชว์ฟอร์มโหด จบฤดูกาลด้วยการติดทีมยอดเยี่ยมของเจลีก พร้อมรับรางวัล MVP ของสโมสร ด้วยการยิงไปทั้งหมด 8 ประตู
5 ปีที่อยู่ในดินแดนหิมะในเมือง ฮอกไกโด ‘เมสซี่เจ’ กลายเป็นที่รักของชาวเมือง เป็นกำลังสำคัญของทีม หรืออาจเรียกได้ว่าเขาคือซูเปอร์สตาร์คนหนึ่ง แต่ด้วยผลงานของทีมแล้ว ซัปโปโร วนเวียนอยู่ในโซนครึ่งล่างของตาราง เจลีก และไม่ใกล้เคียงกับการขยับเป็นทีมลุ้นแชมป์ได้เลย ดีที่สุดคือการจบด้วยอันดับ 4 ในปี 2018 นั้นเอง
เขาโดนเพื่อนร่วมชาติอย่าง ธีราทร บุญมาทัน ที่ย้ายมาช้ากว่าก้าวแซงหน้าความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ เจลีก กับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ทำให้หลายเสียงเริ่มแนะนำว่า เจ น่าจะมองหาทีมที่ใหญ่ขึ้น เพื่อโอกาสในการประสบความสำเร็จ มากกว่าการได้แค่ลงเล่นในลีกที่ดีที่สุดในเอเชีย
และแล้วความฝันของแฟนบอลก็เป็นจริงหลัง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ให้ความสนใจ และทุ่มเงินซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาล คาดการณ์กันว่ามากกว่า 130 ล้านบาท ซึ่ง ณ เวลานั้นในฤดูกาล 2022 ฟรอนตาเล่ คว้าแชมป์ เจลีก 4 ครั้งจาก 5 ปีหลังสุด ทำให้แทบจะการันตีได้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ น่าจะมีโทรฟี่ติดมือมาบ้าง หลังจากย้ายไปซบหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคหลังของ ญี่ปุ่น พร้อมด้วยค่าตัวที่ดูแล้ว ยังไงก็เป็นตัวหลักของทีมอย่างแน่นอน
นั้นคือความคาดหวัง แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม ในฤดูกาลแรกของยอดแข้งชาวไทย ประสบปัญหาอากาศบาดเจ็บออดๆ แอดๆ ตลอดทั้งฤดูกาล ทำให้ลงสนามเพียง 16 นัด ระยะเวลารวมกันแค่เพียง 954 นาที ส่วนในฤดูกาลนี้แม้เจ้าตัวจะได้พักอย่างได้เต็มที่ พร้อมทั้งเลือกที่จะไม่ลงเล่นในนาม ทีมชาติไทย ในหลายๆ รายการ แต่ โทรุ โอนิกิ เฮดโค้ชของทีม เลือกที่จะไม่ใช้งาน ชนาธิป เลยในฤดูกาลล่าสุด
2 นัดจาก 17 เกมใน เจลีก 2023 เป็นเครื่องหมายที่ชัดเจนที่สุดว่าอนาคตของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับยอดทีมทีมนี้แทบจะไม่เหลือแล้ว จนล่าสุดเป็นข่าวว่าเหล่ายักษ์ใหญ่ใน ไทยลีก สนใจที่จะคว้าตัวกลับมาเล่นในแผ่นดินบ้านเกิดอีกครั้ง และจากข่าวล่าสุด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือเต็งหนึ่งในการคว้าตัว ‘ชนาคุง’ ด้วยค่าตัวที่ยื่นซื้อสูงถึง 70 ล้านบาท
แล้วการเลือกหนทางกลับมาเล่นใน ไทยลีก คือการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะด้วยวัย 29 ปี ของ ชนาธิป เป็นช่วงอายุที่ดีที่สุดสำหรับนักฟุตบอล ช่วงที่นักฟุตบอลจะพีคที่สุดในเส้นทางการค้าแข้ง เขาควรจะได้ลงเล่นในทีมที่ดีที่สุด ในลีกที่ดีที่สุด แต่เขากลับเลือกที่จะหันหลังกลับมาเล่นในลีกที่ระดับชั้นต่ำกว่า ซึ่งหากดูกันเพียงแค่นี้ก็อาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่า ‘เมสซี่เจ’ ล้มเหลวในการออกไปเล่นต่างประเทศ หากนับทั้งปัจจัยด้านถ้วยรางวัล และการลงเล่น โดยเฉพาะเมื่อไปเทียบกับ ธีราทร บุญมาทัน
รวมไปถึงการคาดเดาว่าหาก เจ เลือกที่จะออกประเทศญี่ปุ่น หนทางในการค้าแข้งในลีกต่างประเทศที่ดีกว่าบ้านเราคงปิดประตูลง และเราจะได้เห็นมิดฟิลด์รายนี้อยู่ที่ไทย ยาวๆ ยันเลิกเล่นอย่างแน่นอน
แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง การก้าวออกไปเล่นในลีกที่ดีที่สุดอย่าง เจลีก รวมถึงเป็นการเป็นคนกรุยทางให้น้องๆ ได้ไปเล่นในลีกที่ดีขึ้นได้ เหมือนอย่างที่ ธีรศิลป์ แดงดา เคยทำยามที่เคยเล่นบนเวที ลาลีก้า รวมไปถึงนับผลงานส่วนของ ชนาธิป ยามลงเล่นตลอด 7 ปี เส้นทางการค้าแข้งของเขาก็ถือว่ายอดเยี่ยม และน่ายกย่องเป็นที่สุดแล้ว
ส่วนอนาคตต่อไป อาจจะเป็นแค่เพียงกลับมาตั้งหลักเพื่อโอกาสลงเล่นที่มากขึ้น แล้วรอจังหวะค่อยย้ายไปทีมที่เห็นคุณค่า และต้องการใช้งานจริงๆ ก็เกิดขึ้นได้ เพราะยังไม่มีใครรู้อนาคต แต่สำหรับนักฟุตบอล โอกาสลงสนามคือว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด
สุดท้ายการย้ายมากลับมาเริ่มใหม่ใน ไทยลีก ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะถูกมองมุมไหนก็ตามแต่คนจะมอง แต่สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือ เขาจะเข้ามาสร้างมูลค่า และกระตุ้นกระแสบอลไทย ที่เริ่มเงียบให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
เขียนโดย The Lite Team.