ข้างบ้านเรือใบ: เปิดบ้านสอนบอล ‘จอมราชันแห่งยุโรป’
เอติฮัด สเตเดี้ยม ไม่ใช่เป็นเพียงสนามเหย้าของ แมนฯซิตี้ อีกต่อไป แต่ยังเป็นคลาสสอนฟุตบอลให้กับเหล่าทีมผู้มาเยือน หลังจากที่เปิดบ้านชนะ เรอัลมาดริด ไปแบบที่นักเตะหาทางกลับ สเปน แทบไม่ถูก 4-0
คราวนี้เรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นในเกมเมื่อคืนก่อน ที่หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือหนึ่งใน เพอร์เฟคเกมของ แมนฯซิตี้ ในฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก เพราะคู่แข่งคือเจ้ายุโรปผู้ถือครองถ้วยหูใหญ่ถึง 14 ใบ โดยตลอด 20 นาทีแรกก่อนที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะได้ประตูขึ้นนำจากการยิงของ แบร์นาโด้ ซิลบา ‘ราชันชุดขาว’ มีเปอร์เซนครองบอลเพียง 20% เท่านั้น และส่งบอลสำเร็จ 13 ครั้งบ่งบอกได้ถึงการเป็นผู้ชนะในสนามตั้งแต่ช่วงเริ่มเกมจนครึ่งทางก่อนพักเบรก และก็เป็นตามเดิมจนจบครึ่งแรกด้วยประตูนำถึง 2-0 ยังไม่แย่เท่ารูปเกมที่แชมป์เก่าสามารถหาโอกาสยิงได้เพียงครั้งเดียวของ โทนี่ โครส
เปิดเกมมาครึ่งหลังดูเหมือนว่าทีมเจ้าบ้าน จะผ่อนเกมลงและรอจังหวะในการสวนกลับ จนสุดท้ายทีมเยือนก็ไม่สามารถต้านความแข็งแกร่งของเจ้าถิ่นได้ด้วยผลประตู 4-0 ชนิดที่ว่ากองหน้าความหวังทั้ง 3 คนของ เรอัล มาดริด อย่าง วินิซิอุส จูเนียร์, เบนเซม่า และ โรดรี้โก้ เหมือนถูกเก็บอยู่ในกระเป๋าของแนวรับ แมนฯ ซิตี้ ตลอดทั้งเกม บอกตรงๆ ว่าแฟนบอลเจ้าบ้านทุกคนก็แทบไม่เชื่อสายตาว่า บอสใหญ่ชาวสเปน จะแสดงความอัจฉริยะในการล้างแค้นทีมแชมป์เก่าแบบทบต้นทบดอกขนาดนี้ จนกูรูหลายสำนักต่างยกให้ ‘เรือใบสีฟ้า’ มีโอกาสคว้า 3 แชมป์มาครองด้วยความเป็นได้ได้สูงเกือบ 70%
ในฐานะแฟนบอล แมนฯซิตี้ ต้องบอกว่าการคาดหวังกับความสำเร็จครั้งนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก ด้วยฟอร์มของทีมที่กำลังเข้าเบรกแบบที่ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุทางฟุตบอลก็ยังมองไม่เห็นว่าใครจะมาหยุดได้ บวกกับนักเตะที่มีความพร้อมและพลังใจในการคว้าแชมป์สูงแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และแชมป์แรกของเราจะเริ่มต้นในวันอาทิตย์นี้ หากทีมของ เป๊บ สามารถเก็บชัยชนะในบ้านได้สำเร็จ…
เขียนโดย The Lite Team.