ข้างบ้านเรือใบ: ขอชนะอีก 7 นัดเพื่อคว้า 3 แชมป์
หลังจากที่เสมอ เรอัล มาดริด มา 1-1 ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ด้วยเกมระดับคุณภาพ 5 ดาว ทำให้เป็นที่ยืนยันแล้วว่าหากต้องการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก นัดหน้าต้องเก็บชัยชนะที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เท่านั้น
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจโกยเงินเข้าคลังเกือบ 300 ล้านปอนด์ หากเดินหน้าคว้า 3 แชมป์มาครองในฤดูกาลนี้ ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เหลือลงสนามในซีซั่นนี้อีกไม่เกิน 7 นัดเท่านั้น โดยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้เป็นสมัยที่ 5 จาก 6 ปีหลังสุด น่าจะทำให้พวกเราได้เงินกว่า 164 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขพอๆ กับที่สโมสรได้เมื่อฤดูกาลก่อน นอกจากนั้นหากได้ถ้วยบิ๊กเอียร์มาครองหนแรกในประวัติศาสตร์สำเร็จก็จะทำให้ทีมมีรายได้มหาศาลถึง 117.2 ล้านปอนด์ แถมในตอนนี้ ‘เรือใบสีฟ้า’ ดูเป็นต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงดำ วันที่ 3 มิ.ย. ซึ่งหากชนะได้พวกเราก็จะคว้าเงินไปอีก 3.9 ล้านปอนด์ หรือรวมแล้วกว่า 285.1 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ปัจจุบัน แมนฯซิตี้ เหลือแข่งเกมลีกอีก 4 นัด โดยพวกเขาต้องการ 9 คะแนนเพื่อจะการันตีการคว้าแชมป์มาครอง ส่วนเกมยุโรปนั้น พวกเขาเพิ่งบุกไปเสมอ เรอัล มาดริด ในเกมรอบตัดเชือก 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และจะกลับมาเตะเกมตัดสินที่บ้านของเรา
คราวนี้เรามาลองดูสถิติในถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้จะพบว่า ทีมยังไม่พ่ายแพ้ให้กับทีมใดเลย แข่งขันไปทั้งหมด 11 เกม โดยแบ่งเป็น ชนะ 6 เสมอ 5 และทั้ง 5 เกมเป็นการเสมอนอกบ้าน แต่ทุกครั้งที่เล่นในบ้าน แมนฯซิตี้ จะชนะทั้งหมดและหากมองสถิติย้อนหลังแบบยาวๆ จะพบว่าครั้งสุดท้ายที่ทีมพ่ายแพ้คาถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม นับตั้งแต่พบ ลิเวอร์พูล ปี 2018 แล้วในรอบ 16 ทีม และ 8 ทีมสุดท้าย พวกเราเสมอนอกบ้านด้วยผล 1-1 ทั้ง 2 เกม แต่เมื่อแข่งขันในบ้าน ทีมของเป๊บชนะ ไลป์ซิก 7-0 และชนะ บาเยิร์น 3-0 นัดต่อไปเป็นการเปิดสนามเจอคู่แข่งจอมเขี้ยวอันดับหนึ่งอย่าง มาดริด ถ้าเราจะแพ้ก็สมควรตกรอบ แปลว่าเรายังไม่ดีพอที่จะเป็นแชมป์หากไม่ก้าวข้ามเบอร์หนึ่งของยุโรปอย่าง ‘ราชันชุดขาว’ แต่เชื่อว่าในบ้านเราก็แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร
อย่างที่เราทราบกันว่านักเตะของเราหลายคนก็เริ่มมีอาการล้าจากการแข่งขันที่ยาวนาน ก็เพียงแต่ทำได้ส่งกำลังใจให้พวกเขาในโค้งสุดท้ายให้กัดฟันสู้กับ 7 เกมที่เหลือแล้วสร้างประวัติศาสตร์ไปพร้อมกันเพราะหากมองกันตรงๆจะพบว่า คุณภาพผู้จัดการทีมและผู้เล่นของเรานั้นไม่แพ้ใครในยุโรปหรือในโลกนี้ด้วยซ้ำแต่คุณต้องมีสมาธิที่มากพอ เพราะบางครั้งการแข่งขันก็มีเรื่องของดวงเข้ามาผสมด้วย แต่เราจะก้าวผ่านเรื่องนั้นได้เพียงแค่เชื่อมั่นว่า ‘เราทำได้’
เขียนโดย The Lite Team.