ทั้งสองทีมสามารถยกระดับขึ้นเป็นอย่างมากในฤดูกาลนี้ โดยทางฝั่งเจ้าบ้าน ซึ่งจากกำลังหนีตกชั้นเมื่อช่วงปลายปี 2021 ก่อนการมาถึงของกลุ่มนักลงทุนจากซาอุดิอาระเบีย พร้อมกับกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว ที่พาทีมขึ้นมาจบกลางตาราง ก่อนที่ในซีซั่นนี้จะขยับขึ้นมาลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งตอนนี้นำอันดับ 5 อยู่ 3 คะแนน อีกทั้งแข่งน้อยกว่า 2 นัด ที่สำคัญยังโชว์ฟอร์มเก่งใน 3 เกมล่าสุดที่เก็บ 9 คะแนนเต็ม พร้อมยิงไปถึง 11 ประตู

ส่วนผู้มาเยือน อาร์เซนอล ที่ตั้งเป้าเพียงการติดท็อปโฟร์ในช่วงต้นซีซั่น สามารถก้าวขึ้นมากลายเป็นทีมลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเต็มตัว โดยเป็นจ่าฝูงอยู่เกือบทั้งฤดูกาล ก่อนจะเสมอ 3 นัดติดกับ ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม และ เซาแธมป์ตัน ก่อนจะพ่ายให้กับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 4-1 เมื่อปลายเดือนเมษายน หล่นลงจากบัลลังก์ดับฝันการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 19 ปี ก่อนจะเพิ่งกลับมาชนะ เชลซี 3-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตอนนี้ถึงแม้ว่าภารกิจหลักของ มิเกล อาร์เตต้า จะบรรลุไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เพราะการันตีการไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นที่เรียบร้อย แต่อารมณ์ของสาวก ‘ปืนใหญ่’ ยังคงในช่วงหม่นหมอง เมื่อการจับโทรฟี่ไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม จนถึงหลังเทศกาลสงกรานต์ กำลังจะถูกพรากไปแบบที่อาจจะไม่ต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้าย

ผิดกับเหล่า ‘ทูน อาร์มี่’ ที่หวังแค่จบในอันดับเลขตัวเดียว หรือการไปเล่นรายการยุโรปถ้วยเล็ก แต่ตอนนี้พวกเขาพร้อมจะไปเตะใน ‘ถ้วยหูโต’ พร้อมกับเตรียมเสริมทัพขนานใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ และบางทีอาจจะคิดการใหญ่ถึงขั้นลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้า

การพบกันในค่ำคืนนี้อาจไม่ได้มีความหมายมากมายกับ อาร์เซนอล แต่เชื่อเถอะว่า แฟนบอล ลิเวอร์พูล แอบส่งกำลังใจให้ ‘ปืนใหญ่เพื่อนรัก’ เผื่อหวังว่า นิวคาสเซิล จะสะดุดให้พวกเขาได้ลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ต่อไป

เขียนโดย The Lite Team.