บทสรุปแรกสุดเซอร์ไพรส์ของ ไทยลีก 2
ฟุตบอลในลีกรองอย่าง M-150 แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลนี้ได้ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยในรอบฤดูกาลปกติ คำนิยามสั้นๆ สำหรับปีนี้คือ เต็มไปด้วยความสูสี และเซอร์ไพรส์ยันเกมสุดท้าย หรืออาจจะเรียกได้ว่ายันนาทีสุดท้ายก็ไม่เกินไปจากความเป็นจริงนัก
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับ นครปฐม ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ ไทยลีก 2 และได้กลับไปเล่นยังลีกสูงสุดอีกครั้งหลังจากที่ต้องรอกันมานานถึง 14 ปี ตามมาด้วย ตราด เอฟซี กับการคว้ารองแชมป์ ส่วนที่ต้องแสดงความเสียใจก็เป็น 3 ทีมที่ร่วงลงไปเริ่มต้นกันในในไทยลีก 3 อย่าง อุดรธานี เอฟซี, แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด และราชประชา เอฟซี
อย่างที่บอกไปว่า ไทยลีก 2 เต็มไปด้วยความสูสี ขาดเดาไม่ได้ เช่นในกลุ่มลุ้นแชมป์มีถึง 4 สโมสรด้วยกันที่มีสิทธิก้าวขึ้นไปชูถ้วยก่อนการแข่งขันนัดสุดท้าย ทีมที่ลุ้นโควตาเพลย์ก็มีการสลับอันดับก่อนจะมีการพลิกโผกันในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา ส่วนท้ายตารางก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เราจะมาไล่เรียงกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในนัดสุดท้ายของศึก M-150 แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2022/23
กลุ่มลุ้นแชมป์สุดเดือด
4 ทีมที่มีสิทธิ์คว้าแชมป์หากไล่จากอันดับคือ นครปฐม ยูไนเต็ด, ตราด เอฟซี, อุทัยธานี เอฟซี และคัสตอม ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ได้ลุ้นเพียงแชมป์อย่างเดียว แต่เป็นการแย่งสิทธิในการเลื่อนชั้นอัตโนมัติ หากไล่ดูจาก 4 ทีมนี้แล้ว ‘เสือป่าราชา’ ขอแค่ชนะก็เพียงพอต่อการคว้าถ้วยแล้ว แต่ทีมที่เจองานง่ายที่สุดคือ ‘ช้างป่าห้วยขาแข้ง’ ที่เจอกับบ๊วย และพวกเขาก็ปิดจ็อบตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยการออกนำไปก่อนถึง 4-0 ทำให้ อุทัยฯ มองไปถึงการหวังเป็นแชมป์อยู่ลึกๆ หรืออย่างน้อยก็ขอจบด้วยอันดับ 2 เพราะหลังจบ 45 นาทีแรก ตราด จบด้วยสกอร์ 0-0 และเริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่กี่นาทีก็โดน ระยอง เอฟซี ยิงนำอยู่
แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกกลับไปกลับมา อุทัยฯ จบด้วยการถล่ม อุดรธานี เอฟซี 8-1 แต่ ‘ช้างขาวจ้าวเกาะ’ ฮึดยิงแซงเอาชนะ 2-1 ส่วน นครปฐม ยูไนเต็ด ก็ได้ 2 ประตูในครึ่งเวลาหลังคว้าแชป์ไปครอง ทำให้การยิง 8 ประตูของทีมอันดับ 3 ในนัดสุดท้ายไม่มีความหมาย อุทัยธานี ต้องไปลุ้นต่ออีกเฮือกในรอบเพลย์ออฟ
สิทธิเพลย์ออฟแย่งกันจนวินาทีสุดท้าย
ก่อนการแข่งขันนัดสุดท้ายโควตาเพลย์ออฟ ในอันดับ 3-6 ยังเปิดกว้าง โดยเฉพาะในอันดับ 5 กับอันดับ 6 มีถึง 5 ทีมในการแย่งชิงกันไล่ตั้งแต่ ระยอง เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, อยุธยา ยูไนเต็ด, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และนครศรี ยูไนเต็ด ซึ่ง 2 ทีมแรกมีคะแนนมากกว่า 3 ทีมถัดมา 1 คะแนน หมายความว่าการเก็บชัยชนะก็เพียงพอแล้ว แถมในเกมสุดท้าย เชียงใหม่ กับ นครศรี ก็ต้องมาเจอกันเอง และหากทั้งคู่ไม่มีผลแพ้ชนะ ระยอง กับสุพรรณ ก็แถบจะจับมือกันเข้าเพลย์ออฟ
และในคู่ระหว่าง ‘มังกรแดนใต้’ กับ ‘ช้างเผือก’ ก็เสมอกันจนถึงนาทีที่ 90 แม้ว่าเจ้าบ้านมีโอกาสขึ้นนำจากลูกจุดโทษแต่ยิงไปติดเซฟอย่างหน้าเสียดาย ส่วน ‘ช้างศึกยุทธหัตถี’ กับ ‘ม้านิลมังกร’ จบด้วยความพ่ายแพ้ทั้งคู่ หากจบแบบนี้ จะมี 4 ทีมที่มี 52 คะแนนเท่ากัน แต่โควตาเหลือเพียง 2 ที่ ซึ่ง ไทยลีก ใช้กฏ H2H ในการจัดอันดับ ทำให้ทั้ง 4 ต้องมาดูมินิลีกในการเจอกันเอง แต่ในความเป็นจริงแค่เกือบไปถึงความยุ่งยากในการดูมินิลีก เพราะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ก่อนเกมสุดท้ายอยู่ในอันดับที่ 9 มายิงประตูได้ในช่วงเวลา 90+4 หรือวินาทีสุดท้าย กระโดดขึ้นไปจบอันดับ 5 เบียด ระยอง เอฟซี ร่วงลงไปจากพื้นที่เพลย์ออฟ
ทำให้ 4 ทีมที่จะได้ไปเพลย์ออฟ ไล่จากอันดับคือ อุทัยธานี เอฟซี, คัสตอม ยูไนเต็ด, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และสุพรรณบุรี เอฟซี โดยอันดับ 3 จะเจอกับอันดับ 6 และอันดับ 4 เจอกับอันดับ 5 เล่นกันแบบเหย้าเยือน
หนีตายสุดเซอร์ไพรส์
ในโซนหนีตายได้ทีมอย่าง อุดรธานี เอฟซี, แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ตกชั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่อีก 1 อันดับที่ต้องลุ้นยันนัดสุดท้ายคือ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ที่เงื่อนไขในการอยู่รอดยากเหลือเกิน เพราะพวกเขาต้องเก็บชัยชนะเพียงสถานเดียวเหนือ อยุธยา ยูไนเต็ด ทีมที่ยังมีโอกาสลุ้นเลื่อนชั้น และยังต้องลุ้นให้ ราชประชา ไม่ชนะอีกด้วย ซึ่งตลอดทั้งเกม ‘นาคามรกต’ เป็นฝ่ายต้องไล่ตามตีเสมอถึง 2 รอบ แต่มาได้ประตูยิงแซงเอาชนะในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พาทีมรอดตกชั้นแบบน่าเหลือเชื่อ
ฟุตบอล ไทยลีก 2 ยังเหลือการแข่งขันรอบเพลย์ออฟกันอีกในเดือนพฤษภาคม เพื่อหาทีมสุดท้ายขึ้นไปเล่นยังลีกสูงสุด ส่วนในไทยลีก ก็เหลือการแข่งขันอีก 2 นัด ก็จะได้บทสรุปสำหรับฟุตบอลไทยฤดูกาลนี้
เขียนโดย The Lite Team.