กองหลังทีมชาติโปรตุเกสของ เบนฟิก้า ทีมยักษ์ใหญ่แห่งดินแดนฝอยทอง ถูกซื้อมาด้วยค่าตัวที่มีมูลค่ารวมทั้งหมด 61 ล้านปอนด์ โดยแบ่งออกเป็นค่าตัว 51 ล้านปอนด์ บวกกับ นิโคลัส โอตาเมนดี้ กองหลังจอมเฟอฟะชาวอาร์เจนไตน์ ในการย้ายทีมแบบสลับขั้วกันตามข้อตกลง การเข้ามาของนักเตะวัย 25 ปีมีส่วนช่วยให้แนวรับของ แมนฯ ซิตี้ แข็งแกร่งขึ้นแบบทันตาเห็นเลย แม้ว่าในเกมประเดิมสนามของ ดิอาส จะเสียหนึ่งประตูจากเกมที่บุกไปเสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 แต่หลังจากนั้น ‘เรือใบสีฟ้า’ สามารถไล่เก็บ คลีนชีท ในศึกพรีเมียร์ลีก ได้แบบต่อเนื่องถึง 15 เกม และเสียประตูเพียง 15 ลูกเท่านั้นในปีแรกของเขากับทีมใหม่

ก่อนหน้านี้ แมนฯ ซิตี้ เคยมีปัญหาเรื่องเกมรับเมื่อช่วงฤดูกาล 2019/20 นับตั้งแต่ แวงซองต์ กอมปานี ได้ตัดสินใจทิ้งปลอกแขนกัปตันทีมเพื่อย้ายออกไป จึงต้องขยับ แฟร์นันดินโญ่ กองกลางตัวรับชาวบราซิเลียนให้ถอยลงไปช่วยยืนคุมแดนหลังอยู่เป็นประจำ เพราะไม่ไว้ใจฟอร์มการเล่นของพวกกองหลังที่มีอยู่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น จอห์น สโตนส์, เอริค การ์เซีย รวมถึง นิโคลัส โอตาเมนดี้ ส่วนในรายของ อายเมริก ลาปอร์ก เจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักไปแบบยาวๆ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ พลาดท่าเสียแชมป์ พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019/20 ให้กับ ลิเวอร์พูล หลังโดนสอยตาข่ายไปทั้งหมด 35 ประตู ซึ่งมากกว่า หงส์แดง เพียง 2 ลูกเท่านั้น

กลับมาที่ฤดูกาลปัจจุบัน ในช่วงต้น รูเบน มีอาการบาดเจ็บมารบกวนตลอดเวลา จนทำให้ทีมต้องกลายเป็นผู้ตามในศึกพรีเมียร์ลีก แต่หลังจากที่เจ้าตัวเรียกความฟิตกลับมาได้ทีมของ เป๊บ ก็กลับกลายเป็นทีมที่เสียประตูยากที่สุดทีมหนึ่ง ยิ่งเป็นช่วงท้ายฤดูกาลแบบนี้ ความสำคัญของ ดิอาส ยิ่งแสดงออกมาให้เห็น เพราะเขามีทั้งความแม่นยำในการสกัด และความเป็นผู้นำในแนวรับให้กับเพื่อนๆ ในทีม จนแฟนบอลเรือใบต่างพากันพูดเสียงเดียวกันว่า ไม่ว่าใครจะลงในแนวรับของ แมนฯซิตี้ หนึ่งในนั้น ต้องมี ปราการหลังชาวโปรตุเกส ถึงจะไว้ใจได้

ในฐานะแฟนบอลแมนฯซิตี้ ต้องบอกว่า การได้เห็น รูเบน ดิอาส มีความฟิตสมบูรณ์ อยู่เป็นตัวหลักในเกมรับ มันช่างอุ่นใจจริงๆ เพราะเชื่อว่าต่อให้เกมรุกดุดันมากแค่ไหน แต่ถ้าแนวรับพร้อมจะเสียประตูทุกเมื่อ ก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เขาอาจเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ในอนาคตได้อย่างแน่นอน…

เขียนโดย The Lite Team.