เกมที่ผมได้พูดถึงคือเกมที่ แอสตัน วิลล่า ต้องเปิดบ้านพบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

ในช่วงต้นฤดูกาล ‘สิงห์ผงาด’ ภายใต้การคุมทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทำทีมรูดไปอยู่ในโซนท้ายตาราง จนกระทั่งโดนปลด และแต่งตั้ง อูไน เอเมรี่ เข้ามากุมบังเหียนแทนในช่วงเดือนพฤศจิกายน

อดีตกุนซือของ อาร์เซนอล พาทีมขึ้นมาจากอันดับ 16 ในตอนนั้น พุ่งทะยานมาสู่อันดับ 6 ในตอนนี้ และห่างจากพื้นที่ท็อปโฟร์เหลือเพียง 9 คะแนน และตามหลังอันดับ 5 อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อยู่ 6 คะแนนเท่านั้น

ฟอร์มล่าสุดของ วิลล่า พวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้วถึง 7 เกมติดต่อกัน โดยเป็นการชนะได้ถึง 6 นัด รวมถึงเก็บชัยชนะใน วิลล่า พาร์ก มาได้ 3 เกมติดและไม่เสียเลยแม้แต่ประตูเดียว

ข้ามมาดูทางฟากของทีมเยือนอย่าง ‘สาลิกาดง’ ที่กำลังอยู่ในช่วงที่ร้อนแรง ไม่แพ้แดดในประเทศไทยเลย

เอ็ดดี้ ฮาว พาทีมคว้า 3 แต้มเต็มใน 5 นัดหลังสุด ซึ่งมีการเปิด เซนต์ เจมส์ พาร์ก ไล่ต้อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 2-0 และยึดอันดับ 3 บนตารางมาได้จนถึงตอนนี้ รวมถึงในนัดเยือนที่บุกไปถล่ม เวสต์แฮม กระจุยกระจาย

แน่นอนว่า การที่ วิลล่า ได้เล่นในบ้าน ย่อมได้เปรียบมากกว่าทีมเยือนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในระยะหลังๆที่เก็บคลีนชีตได้รัวๆ แต่ ‘เดอะ แม็กพายส์’ เองก็เพิ่งสร้างความมั่นใจ มาจากการเล่นเกมเยือนนัดล่าสุด ซึ่งพวกเขาเป็นทีมที่ 2 ในฤดูกาลนี้ ที่บุกไปทุบ เบรนท์ฟอร์ด ได้ถึงถิ่น

ในปัจจุบัน เป้าหมายของทั้งคู่อาจจะแตกต่างไปจากในช่วงต้นฤดูกาล แต่เชื่อว่าพอได้มาอยู่ในจุดๆนี้ ย่อมต้องมองไปข้างหน้าอย่างเดียวแล้ว จากที่อาจจะหวังกันเพียงจบครึ่งบนของตาราง พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ทั้ง ฮาว และ เอเมรี่ ต่างก็มองไปถึงการพาทีมไปลุยในฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปกันแล้ว

แม้ว่าเจ้าบ้านในเกมนี้อาจจะมีหวังน้อยหน่อย แต่ถ้าหากมีความหวังโผล่ขึ้นมาเพียงเล็กน้อยแล้ว ถ้าไม่ลองทำให้เต็มที่ดูสักหน่อย พวกเขาอาจจะต้องเสียใจในภายหลังก็เป็นได้ ส่วนทางทีมเยือน ถือว่าพวกเขาก้าวกระโดดจากฤดูกาลที่แล้วเป็นอย่างมาก ไม่มีคำว่าเสียใจสำหรับ ‘ทูน อาร์มี่’ แน่นอน

ไม่ว่าผลจะออกมาว่าฝ่ายไหนแพ้ ชนะ หรือจะจบลงด้วยผลเสมอ ถึงอย่างไร ผมก็เชื่อว่าทั้ง แอสตัน วิลล่า และ นิวคาสเซิล ต่างก็ได้กำไรในฤดูกาลนี้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วทั้ง 2 ทีม