เปิดประตูแอนฟิลด์: พลังแห่ง ‘เดอะ ค็อป’ ยังคงไม่จางหาย
เกินกว่าหนึ่งเดือนมาแล้วที่ ลิเวอร์พูล สะกดคำว่า “ชนะ” จากเกมล่าสุดที่พวกเขาเปิดบ้านถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อต้นเดือนมีนาคม
หลังจากโชว์ฟอร์มแรงพลังใบ บดขยี้คู่แค้นตลอดกาลไปแบบไม่เหลือซาก ‘หงส์แดง’ ก็แปลงร่างเป็น ‘หงส์ห่วย’ ประหนึ่งว่าฤดูกาลนี้จะไม่เอาบ้าอะไรอีกแล้ว เพราะมีสกอร์ 7-0 เป็นเกราะป้องกัน โดยลงเล่นเกมเยือนต่อเนื่อง 4 นัดติด
แพ้ บอร์นมัธ ทีมบ๊วย 1-0
แพ้ เรอัล มาดริด 1-0 ตกรอบ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สกอร์รวม 6-2
แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 แบบหาบอลไม่เจอ
เสมอ เชลซี ที่เอาคนไม่เคยเป็นโค้ชมาคุมทีมเสมอ 0-0 แบบไม่แพ้ก็บุญแล้ว
โดยหลังจากฝ่ามรสุมอันแสนเจ็บปวด ลิเวอร์พูล ได้กลับมาเล่นที่ แอนฟิลด์ พร้อมกับความหวังว่าจะปลุกฟอร์มการเล่นให้กลับมาเต็มที่อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าทีมที่พวกเขาต้องเจอกับไม่เป็นใจเอาเสียเลย เมื่อผู้มาเยือนคือจ่าฝูง อาร์เซนอล ที่ต้องการรักษาช่องว่างกับ ‘เรือใบสีฟ้า’ ก่อนที่จะดวลกันสิ้นเดือนนี้
สิ่งที่แฟนบอล ‘หงส์แดง’ ทั่วโลกกังวลก็เกิดขึ้นจริงๆ เพราะว่าโดนนำแต่หัววันอีกแล้วครับคุณผู้ชม แล้วโดนง่ายจนได้แต่สงสัยว่า “อีกแล้วหรอวะ” แม้แต่แฟนบอลในสนามยังเงียบเป็นเป่าอุปกรณ์ตำส้มตำ
แต่ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เดือดกับ กรานิต ชาก้า ดันไปปลุกเสียงเชียร์ ‘เดอะ ค็อป’ ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ทำเอาได้ประตูตีไข่แตกตั้งแต่ กราฟฟิคใบเหลืองยังขึ้นไม่จบ
45 นาทีหลังเสียงเชียร์ก็ยังคงกระหึ่มสมกับป้ายที่เขียนว่า “ที่นี่แอนฟิลด์” ช่วยผลักดันให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายขโยกอยู่ฝ่ายเดียวและตามตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม และเกือบจะพลิกแซงได้อีกด้วยถ้า อารอน แรมส์เดล ไม่โชว์ฟอร์มโคตรบิดามารดาเซฟมหัศจรรย์ตอนทดเวลาบาดเจ็บ
ไม่อยากจะคิดเหมือนกันนะครับว่าถ้า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงจุดโทษเข้าไป หรือประตูตีเสมอมาเร็วกว่านี้ พวกเราอาจได้สามแต้มไปแล้วในเกมนี้
ภายใต้ฤดูกาลอันแสนห่วยแตกของ ‘หงส์แดง’ อย่างน้อยก็ยังพอมีเรื่องดีอยู่บ้าง เมื่อฟอร์มการเล่นใน แอนฟิลด์ ยังคงสร้างความยำเกรงให้กับผู้มาเยือนได้ยกเว้น เรอัล มาดริด ซึ่งซีซั่นหน้าไม่ต้องกลัวว่าจะเจอ เพราะเราห่างไกลจากพื้นที่ แชมเปียนส์ลีก เหลือเกิน
เขียนโดย The Lite Team.