โค้งสุดท้ายฟุตบอลไทยลีก ในฤดูกาล 2022-23
ฟุตบอลลีกของไทย เพิ่งปิดฉากฟาดแข้งกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลากหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นทั้งบนลีกสูงสุด หรือกระทั่งบนลีกพระรอง ก่อนที่จะหยุดพักสงกรานต์ และเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ที่ขับเคี่ยวเข้มข้นแบบละสายตาไม่ได้ในทุกๆ เกมต่อจากนี้
สำหรับศึก รีโว่ ไทยลีก ที่ 14 สโมสรที่ดีที่สุดในประเทศไทยไล่กวดแข่งขันกันอยู่ เหลือโปรแกรมอีก 4 นัด สำหรับตำแหน่งแชมป์คงจะหนีไม่พ้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แม้ว่าจะบุกไปพ่าย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มาแบบสุดมัน 3-4 พลาดโอกาสทำสถิติไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาลไป แต่พวกเขากลับมาเก็บชัยชนะเหนือ ลำปาง เอฟซี 2-0 มีแต้มทิ้งห่าง ‘แข้งเทพ’ 12 คะแนน หลังยอดทีมจากเมืองหลวงบุกไปพ่าย ลำพูน วอริเออร์ น้องใหม่ที่กำลังหนีตกชั้นอยู่ 1-2 ทำให้ ‘ปราสาทสายฟ้า’ ต้องการเพียงอีกคะแนนเดียวเท่านั้นในการคว้าแชมป์ ไทยลีก หนที่ 9 ของสโมสร
แต่ที่น่าสนุกกว่าโซนบนของตาราง คือการหนีตายในฤดูกาลนี้ ที่เรียกได้ว่ามันหยดกันยันนัดสุดท้ายอย่างแน่นอน 2 ทีมที่มีโอกาสตกชั้นมากที่สุดคือ ลำปาง เอฟซี ที่เก็บได้เพียง 16 คะแนน ตามมาด้วย หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่มี 17 คะแนนเท่านั้น ซึ่งทั้งสองทีมมีแต้มห่างจากโซนสีแดง 10 และ 11 แต้มตามลำดับ กับอีก 12 คะแนนที่เหลือให้เก็บทำให้พวกเขาแทบจะตกชั้นเต็มตัวแล้ว
ส่วนอีกหนึ่งโควต้าตกชั้นในอันดับที่ 14 ตอนนี้เป็น ขอนแก่น ยูไนเต็ด จับจองพื้นที่อยู่ โดยมี 26 คะแนน ตามไปด้วย ‘ราชันโคขาว’ 27 คะแนน, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กับ พีที ประจวบ เอฟซี เท่ากันที่ 28 คะแนน และสุโขทัย เอฟซี อยู่ในอันดับที่ 10 มี 30 คะแนน ทำให้ 4 นัดที่เหลือทั้ง 5 ทีมจะต้องพากันเก็บแต้มให้มากที่สุด เพราะมีสิทธิ์ร่วงลงไปในโซนตกชั้นได้ด้วยผลแพ้ชนะเพียงเกมเดียวเท่านั้น ทำให้ศึกหนีตายใน ไทยลีก ฤดูกาลนี้ เดือดยิ่งกว่าโซนบนของตาราง กับ 12 คะแนนสุดท้ายของฤดูกาล
ลีกสูงสุดว่าเดือดแล้ว ลีกพระรองอย่าง M-150 แชมเปี้ยนชิพ หรือ ไทยลีก 2 ก็ดุเดือดไม่แพ้กัน กับการแก่งแย่ง 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นไปลีกสูงสุดของไทย สำหรับการเลื่อนชั้น ตำแหน่งแชมป์ และรองแชมป์ จะเลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก โดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 3-6 จะต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟเพื่อแย่งพื้นที่สุดท้ายในการเลื่อนชั้น
ไทยลีก 2 เหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกเพียง 2 นัดเท่านั้น และจะจบลงภายในเดือนเมษายนนี้ ก่อนจะไปแข่งรอบเพลย์ออฟกันในเดือนหน้า สำหรับจ่าฝูง ณ เวลานี้เป็นของ ตราด เอฟซี ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเกือบจะการันตีการเลื่อนชั้นอัตโนมัติ แต่ดันบุกไปแพ้ ‘เสือป่าราชา’ 0-1 ทำให้ต้องลุ้นกันต่ออีกเฮือก กับ 56 คะแนนที่มีอยู่ในมือตอนนี้ ส่วน 6 คะแนนที่ยังเหลืออยู่ทำให้ทีมที่สามารถลุ้นขึ้นมาคว้าแชมป์มีถึง 7 ทีมในทางทฤษฎี นอกจาก ตราด แล้วก็มี นครปฐม ยูไนเต็ด, อุทัยธานี เอฟซี, ระยอง เอฟซี, คัสตอม ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี และนครศรี ยูไนเต็ด
สิ่งที่น่าสนใจของ ไทยลีก 2 บรรดาตัวเต็งที่โชว์ฟอร์มโหดในช่วงเลกแรก พากันกอดคอฟอร์มตกจนแทบจะหมดลุ้นในการเลื่อนชั้น เช่น ‘มังกรแดนใต้’ น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นจาก ไทยลีก 3 ขึ้นมาเป็นครั้งในประวัติศาสตร์ของสโมสร ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงมานานถึง 12 สัปดาห์ แต่พวกเขาไม่ชนะใครมา 10 นัดติดต่อกัน จนร่วงลงมาอยู่ในอับดับ 7 เช่นเดียวกับ อยุธยา ยูไนเต็ด พวกเขารั้งตำแหน่งจ่าฝูงนานถึง 10 สัปดาห์ แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในอันดับ 8 หมดลุ้นการเลื่อนชั้นอัตโนมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนท้ายตารางได้ 2 ทีมตกชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้แก่ อุดรธานี เอฟซี และ แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งเป็นการหนีตายระหว่าง เกษตรศาสตร์ เอฟซี ที่มี 31 คะแนน กับทีมด้านบนอีก 3 ทีมที่มี 37 คะแนนเท่ากัน ซึ่งหมายความว่าหากทั้ง 3 ทีมเก็บชัยชนะได้ในเกมถัดไป ‘นาคามรกต’ จะตกชั้นทันที หรือถ้ามีทีมใดพลาด เกษตรฯ ก็ต้องชนะทั้ง 2 นัดเช่นกัน
โค้งสุดท้ายของฟุตบอล ไทยลีก ทั้งสองดิวิชั่น ที่การันตีความเดือดในทุกนัดที่ลงแข่งขัน รอให้แฟนบอลไทยชมกัน นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันของ ทีมชาติไทย ในการแข่งขันซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา ซ้อนทับกันอีกด้วย ต้องมาติดตามว่าสุดท้ายแล้ว โฉมหน้าของทีมแชมป์ ทีมตกชั้น และทีมเลื่อนชั้นจะเป็นเช่นไร ในไม่กี่อึดใจต่อจากนี้
เขียนโดย The Lite Team.