ชวนคุยก่อนเกม: ภารกิจสำคัญของทั้ง ‘ผีแดง’ และ ‘ท็อฟฟี่’
หลังจากผ่านพ้นช่วงแมตช์กลางสัปดาห์มาไม่กี่วัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ 1 ในทีมหนีตายอย่าง เอฟเวอร์ตัน
ขุนพลของ เอริก เทน ฮาก เพิ่งกลับมาเอาชนะในลีกได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ฟอร์มบู่มาถึง 3 นัดติดต่อกัน และทำให้หลุดไปอยู่ในอันดับ 5 เป็นการชั่วคราว
พวกเขาเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด มาได้อย่างหวุดหวิดเมื่อกลางสัปดาห์ จากประตูโทนของ มาร์คัส แรชฟอร์ด คนดีคนเดิม โดยก่อนหน้านั้นพวกเขาเก็บได้เพียงแค่คะแนนเดียวจาก 3 เกมที่ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งผลการแข่งขันในเกมนี้ ทำให้พวกเขาไต่อันดับกลับมาอยู่ในท็อปโฟร์ได้อีกครั้ง โดยมีคะแนนเหนืออันดับ 5 อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อยู่ 3 คะแนน และเหลือเกมในมือมากกว่าอีก 1 เกม
ทางด้านของพลพรรค ‘ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน’ ตั้งแต่ที่ได้ ฌอน ไดช์ เข้ามาคุมทีม ทรงบอลของพวกเขาก็ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และช่วยให้ทีมกระโดดออกมาจากโซนสีแดงได้เป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าจะยังไม่ปลอดภัย 100% แต่ก็ดูจะมีความหวังมากกว่ากุนซือคนก่อนหน้า
ผลงาน 2 นัดล่าสุด พวกเขาสามารถเก็บผลเสมอกับทีมระดับท็อปจากลอนดอนได้ถึง 2 ทีม นั่นก็คือการไปเสมอกับ เชลซี ได้ถึงที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ และการเปิด กูดิสัน พาร์ก เสมอกับ สเปอร์ส ไปแบบสุดมันส์ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางฟากของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพยายามเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้ เพื่อยึดพื้นที่ในการไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เอาไว้ เนื่องจากทาง นิวคาสเซิล เองก็ดูจะฉุดไม่อยู่แล้วในนาทีนี้ รวมถึงยังมีตาอยู่ที่จ้องจะหยิบชิ้นปลามันอย่าง ‘ไก่เดือยทอง’ และ ‘นกนางนวล’ เองก็พร้อมที่จะสอดแทรกเข้ามาได้ทุกเวลา
ส่วนในโซนหนีตาย ยังต้องดิ้นรนกันถึง 9 ทีม การคว้าชัยชนะเพียงนัดเดียว อาจยืดชะตาชีวิตไปได้อีกเปาะนึงเลย ทางทีมจากเมอร์ซีไซด์ มีอยู่ 27 คะแนน เท่ากับ บอร์นมัธ ที่อยู่ในโซนตกชั้น แต่พวกเขามีประตูได้เสียที่ดีกว่า
ดังนั้นในแมตช์นี้ ต่างเป็นเกมที่สำคัญของทั้ง 2 ทีม เพราะเหลือเกมให้ลงเล่นต่อจากนี้ไม่ถึง 10 นัดแล้ว ต้องมาดูกันว่าในท้ายที่สุด ภารกิจของทั้งคู่จะทำสำเร็จได้หรือไม่ในฤดูกาลนี้