แต่ทั้งสองทีมข้างต้นนับว่าบรรลุเป้าหมายของตัวเองในฤดูกาลนี้แล้ว ‘ปีศาจแดง’ แม้โอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกจะอยู่ห่างไกล แต่พื้นที่ท็อปโฟร์คงไม่หลุดไปไหน แถมคว้าโทรฟี่แรกได้ในรอบ 5 ปี อย่างถ้วย คาราบาว คัพ มาครอบครอง ส่วน ‘สาลิกาดง’ การได้ไปฟุตบอลยุโรป นับเป็นความสำเร็จต่อยอดของยุคใหม่ หลังจากฤดูกาลที่แล้วมีช่วงเวลาตกต่ำในโซนตกชั้น และถ้าได้กระโดดไปเล่น ‘ถ้วยหูโต’ นั่นก็เหมือนโบนัสของพวกเขาแล้ว

ในขณะที่โซนตกชั้นตอนนี้สามารถพลิกผันได้ทุกเมื่อเชื่อวัน เนื่องจากก่อนที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จะกลับมาเตะกันในช่วงโค้งสุดท้ายหลังจบโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ทีมอันดับ 12 ของตาราง วูล์ฟแฮมป์ตัน ยังมีคะแนนมากกว่า โซนตกชั้นแค่ 3 คะแนน และทีมบ๊วยก็ตามหลังพื้นที่ปลอดภัยแค่ 2 คะแนน

เกมในค่ำคืนนี้จะมีการดวลกันระหว่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อันดับ 19 ที่มีอยู่ 24 คะแนน และ เซาแธมป์ตัน ทีมล่างสุด 23 คะแนน ซึ่งหลังจากจบทุกคู่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทีมอันดับ 17 อย่าง เอฟเวอร์ตัน ก็มีเพียง 26 แต้มเท่านั้น

เจ้าบ้าน ‘ขุนค้อน’ กลายสภาพจากทีมล้มยักษ์ ที่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป 2 ฤดูกาลติด มาเป็น ค้อนด้ามหักในปีนี้  ส่วน ‘นักบุญ’ ก็เล่นได้สมฉายาประจำทีม เมื่อขยันแจกแต้มให้กับบรรดาทีมเล็ก ทีมใหญ่ แต่กลับแบ่งแต้มจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ซะอย่างนั้น

ทั้งสองทีมนับเป็นทีมเก่าแก่ประจำศึก พรีเมียร์ลีก ที่ถึงแม้ว่าจะมีช่วงเวลาเลวร้ายตกไปเล่น แชมเปี้ยนชิพ บ้างแต่ก็หล่นไปได้ไม่นาน ก่อนที่จะกลับขึ้นมาใหม่ ทว่าครั้งนี้สถานการณ์แตกต่างออกไป เนื่องจากจบฤดูกาลนี้ พวกเขาอาจจะต้องเสีย กัปตันทีม อย่าง ดีแคลน ไรซ์ และ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ออกไปส่งผลให้การทำอันดับกลับมาลีกสูงสุดเป็นเรื่องยากขึ้น

ศึกหัวตารางที่ต่อให้จะมีพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เป็นเดิมพัน แต่รายรับของทีมก็เทียบกันไม่ได้ระหว่างการเล่น พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนชิพ ที่ส่วนต่างมีมูลค่าห่างกันในหลัก 100 ล้านปอนด์

เขียนโดย The Lite Team.