ชวนคุยก่อนเกม: นัดแรกในเดือนโหดของ ‘เรือใบ’
กลับมาจากพักเบรกให้กับโปรแกรมทีมชาติ ก็จะเข้าสู่ช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุดของฤดูกาลแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมที่กำลังมีลุ้นแชมป์ 3 รายการใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เปิดมาคู่แรกของแมตช์ที่ 29 ก็เป็นบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์กันเลยทีเดียว โดยรองจ่าฝูง จะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อต้องรับมือกับ ‘หงส์แดง’ ก็ไม่เคยเป็นงานง่ายเลยสักครั้งเดียว โดย 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ พวกเขาเอาชนะทีมจากเมอร์ซี่ไซด์ได้เพียงแค่นัดเดียว โดยเป็นการชนะในรายการ คาราบาวคัพ เมื่อปลายปีที่แล้ว นอกนั้นจะหนักไปทางเสมอเสียมากกว่า
ในนัดนี้พวกเขายังต้องรอเช็คความฟิตของเครื่องจักรสังหารประตูอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่บาดเจ็บตั้งแต่นัดที่เจอกับ เบิร์นลี่ย์ ใน เอฟเอคัพ จนต้องถอนตัวจากทีมชาตินอร์เวย์ และยังต้องขาดผู้เล่นตัวหลักอีกคนอย่าง ฟิล โฟเด้น ที่ไปผ่าตัดไส้ติ่งในช่วงเบรกทีมชาติที่ผ่านมา
ส่วนทางด้านทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็จะขาดนักเตะอย่าง ติอาโก้ อัลคันทาร่า, คอสตาส ชิมิคาส และ สเตฟาน บายเซติช ที่ไม่น่าจะมีชื่อลงสนามในเย็นวันเสาร์นี้ ส่วนทาง หลุยส์ ดิอาซ ที่กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบกับทีมแล้ว ต้องรอลุ้นว่าจะได้ลงสนามในนัดนี้หรือไม่
‘เรือใบสีฟ้า’ ต้องการคว้า 3 คะแนนในนัดนี้ เพื่อทำแต้มไล่จี้กดดัน อาร์เซนอล ต่อไป พวกเขาตามหลังจ่าฝูงอยู่ 8 คะแนน แต่มีนัดตกค้างเหลืออยู่ในมืออีก 1 เกม
เกมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะเป็นการเริ่มต้นของโปรแกรมเดือนหฤโหดของขุนพลจากเมืองแมนฯ พวกเขามีคิวลงเตะถึง 8 เกมในเดือนเมษายน และลงเตะทุกรายการที่ยังมีลุ้นอยู่ในซีซั่นนี้
พวกเขามีคิวเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค 2 นัดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ชมาเป็น โธมัส ทูเคิล ต้องเจอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ใน เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ และช่วงสิ้นเดือนต้องเจอกับคู่แข่งแย่งโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก อย่าง ‘ปืนใหญ่’ ซึ่งอาจจะเป็นนัดตัดสินแชมป์ได้เลย ถ้าหากพวกเขายังรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีได้เอาไว้ได้ จนกว่าจะถึงเวลานั้น
แต่ก่อนจะไปถึงสิ้นเดือน ในนัดนี้พวกเขาต้องคว้าชัยชนะมาให้ได้เสียก่อน ก่อนที่คะแนนจะห่างกับทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่จะได้ลงเล่นทีหลังไปมากกว่านี้
นัดนี้จึงถือว่าเป็นนัดชี้ชะตานัดแรกของขุนพล ‘ซิตี้เซน’ ว่าพวกเขาจะยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษได้หรือไม่ รวมถึงสร้างโมเมนตั้มเพื่อคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ เหมือนกับที่เพื่อนบ้านฝั่งสีแดงเคยทำเอาไว้ได้ในปี 1999