เปิดประตูแอนฟิลด์: เอาไงต่อ 12 นัดที่เหลือ
ก้าวเข้าสู่สองเดือนสุดท้ายของฤดูกาล และอย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล หมดสิทธิลุ้นแชมป์ในทุกรายการอย่างน่าผิดหวัง
ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ‘เครื่องจักรสีแดง’ ที่เกือบจะได้ทุกแชมป์ในปีที่แล้ว จะกลายเป็นทีม เบรคสะบัด คลัชเสีย เกียร์หลุด เครื่องสะดุด เพลาหัก เปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 3 เกมแรก เก็บได้เพียง 2 คะแนน แถมยังโดนอัดรูทวาร แพ้เกินสามเม็ดจนหมอไม่รับเย็บเอาซะไม่อยากจะนับว่ากี่ครั้งในซีซั่นนี้
ส่วนฟุตบอลถ้วยก็ ตกรอบคาราบาว คัพ หลังจากจบฟุตบอลโลก, เอฟเอ คัพ ก็โดน ไบรห์ตัน สั่งสอนว่าบอลระบบเป็นยังไง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ถูก เรอัล มาดริด บุกมายิงซะไม่เกรงใจป้าย ‘This is Anfield’ แพ้ไป 2-5 ก่อนเจอกันเลกสอง ก็ถูกย้ำให้ปราชัยอีกครั้ง 1-0
ก่อนที่การแข่งขันพรีเมียร์ลีก จะกลับมาโม่แข้งกันต่อในโค้งสุดท้าย ลิเวอร์พูล ลงเล่นไปแล้ว 26 นัด ชนะได้เพียง 12 เกม ไม่ถึงครึ่งนึงของจำนวนแข่งขันด้วยซ้ำ โดยเสมอไป 6 นัด และแพ้ไปมากถึง 8 นัด มี 42 คะแนนในมือ
ปัจจุบันพวกเขามีแต้มตามหลัง สเปอร์ส และ นิวคาสเซิล อยู่ที่ 7 และ 5 คะแนน ตามลำดับ โชคดีหน่อยที่มีเกมในมือมากกว่า ‘ไก่เดือยทอง’ 2 นัด ที่น่ากังวลจริง ๆ คงจะเป็น ‘สาลิกาดง’ ที่ก่อนหน้านี้อาจจะเป๋ไปบ้าง แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขากลับมาแล้ว
ส่วน ‘หงส์แดง’ เองนอกจากจะต้องแช่งชักหักกระดูก 2 ทีมดังกล่าวเพื่อท็อปโฟร์แล้ว โปรแกรมการแข่งขันใน 3 นัดแรก หลังจากสัปดาห์ทีมชาติ นี่มันเหมือนสาวสวยหมวยเซ็กซี่เดินเข้าไปในดงคนบ้ากามชัดๆ เมื่อ ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ อาร์เซนอล ต่อกันภายในเวลาแค่ 8 วัน ซึ่งว่ากันตามตรง จะมีสักแต้มหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
5 ฤดูกาลหลังสุด ทีมอันดับ 4 มีแต้มเฉลี่ยอยู่ที่ 70 คะแนน มองจากตรงนี้ ลิเวอร์พูล ต้องชนะ 9 เสมอ 1 และแพ้ได้อีกแค่ 2 นัด ซึ่งนี่ยังไม่การันตีเลยด้วยซ้ำว่า จะเพียงพอต่อการได้ไปเล่นถ้วยใหญ่ยุโรปฤดูกาลหน้าไหม ก็เอาเป็นว่าถ้าสุดท้ายมันจะล้มเหลว ก็ขอจบที่ 7 ไปเล่น ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก มันให้รู้แล้วรู้รอด
เพราะยังไงพวกเราก็มีการ์ด 7-0 ไว้ป้องกันตัว
เขียนโดย The Lite Team.