ชวนคุยก่อนเกม: เอลกลาซิโก้ ยกที่ 4 ตัดสินแชมป์
หากจะพูดถึงศึกแห่งศักดิ์ศรีที่สุดของวงการฟุตบอล นอกจากเกมแดงเดือดจากเกาะอังกฤษ คู่แรกที่แฟนบอลส่วนใหญ่จะคิดถึงก็คือ บาร์เซโลน่า ปะทะ เรอัล มาดริด
ทั้งสองทีมคือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลสเปน รวมไปถึงระดับทวีป ด้วยถ้วยรางวัลที่การันตีมาแล้วที่เอานิ้วเท้ามานับด้วยก็คงไม่พอ และแม้แต่ในวันที่ทีมกำลังประสบปัญหา ไม่ว่าจะทางการเงิน หรือการลุ้นความสำเร็จ แต่นี่ก็ยังเป็นหมุดหมายความฝันของซูปเปอร์สตาร์ลูกหนัง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือการที่ขณะนี้ บาร์เซโลน่า มีปัญหาทางบัญชีที่ซับซ้อน ส่งผลให้ไม่สามารถลงทะเบียนนักเตะได้ หากยังไม่จัดการลดค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามข้อกำหนดของลาลีกา แต่นักเตะหลายคนก็ยินดีจะหั่นค่าเหนื่อย ยกตัวอย่างเช่น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค เพื่อเล่นในถิ่น คัมป์ นู
ทางฝั่ง เรอัล มาดริด เองที่เห็นได้ชัดล่าสุดก็คือ ออเรเลียง ชูอาเมนี ซึ่งในตอนแรกตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล และด้วยความน่าจะเป็น ที่หากเขาย้ายไปเล่นให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้เป็นตัวจริงทันที แต่สุดท้ายก็เลือกย้ายไปเล่นให้กับ ‘ราชันชุดขาว’
หากย้อนกลับไปเมื่อช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ การพบกันระหว่างทั้งสองสโมสร นอกจากจะเป็นการดวลกันของยอดทีมแล้ว นี่คือการฟาดฟันกันระหว่าง นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาลอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงล่าตาข่าย
ซึ่งถึงแม้ว่าปัจจุบันทั้งสองคนจะไม่อยู่แล้ว แต่ดีกรีศักดิศรียังคงไม่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมในค่ำคืนนี้ ที่อาจจะเป็นการตัดสินแชมป์ ลาลีกา ประจำฤดูกาลนี้
ปัจจุบันทั้งสองทีมแข่ง 25 นัดเท่ากัน โดยจ่าฝูง บาร์เซโลน่า นำอันดับสอง เรอัล มาดริด ถึง 9 คะแนน ซึ่งถ้าหากว่าทีมของ ชาบี เอร์นานเดซ เอาชนะได้ พวกเขาก็เตรียมรับถ้วยแขมป์ลีกได้เลย แต่หากทีมเยือนเอาชนะได้สำเร็จ จะไล่มาเหลือแค่ 6 คะแนน และจำนวนเกมที่เหลืออีก 12 นัด การแซงกันช่วงโค้งสุดท้ายก็อาจเกิดขึ้นได้
ขึ้นชื่อว่าเกม เอล กลาซิโก้ ที่ต่อให้แต้มจะห่างกันขนาดไหน หรือผลงานก่อนหน้าจะเป็นเช่นไร แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อนักเตะ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด เดินลงสนาม พวกเขาก็พร้อมจะห้ำหั่นกันให้สมศักดิ์ศรีทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟุตบอล เตรียมลุ้นไปด้วยกันค่ำคืนนี้ 03.00 น.
เขียนโดย The Lite Team.