ตัวเลือกที่ใช่ในเวลาที่เกือบพอดี? ของเชียงใหม่ ยูไนเต็ด
ช่วงเวลาสำคัญอีกหนึ่งครั้งของทีมจากหัวเมืองใหญ่ กับจังหวะที่มีการเปลี่ยนแปลงแม่ทัพ เพื่อพาทีมกลับขึ้นไปสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง ตัวเลือกในการตัดสินใจกับการเดิมพันอนาคตของ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด
เชียงใหม่ คือ จังหวัดที่มีศักยภาพและโด่งดังจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ หรือด้านการศึกษาที่มีจำนวนโรงเรียน และมหาวิทยาลัยมากที่สุดไม่แพ้เมืองหลวงอย่าง กรุงเทพมหานคร ยิ่งในเรื่องของสโมสรกีฬา หรือทีมฟุตบอล เชียงใหม่ มีทีมที่มีประวัติศาสตร์ และก่อตั้งมาอย่างยาวอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี และอีกหนึ่งทีมที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาในช่วง 4-5 ปีหลัง อย่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้ง 2 ทีมเคยก้าวขึ้นไปเล่นใน ศึกไทยลีก มาแล้ว แต่ก็ร่วงหล่นลงมาภายในฤดูกาลเดียว
ในฤดูกาลนี้ทีมจาก เชียงใหม่ เล่นอยู่ในลีกรองอย่าง เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป้าหมายของทั้งสองทีม คือ การกลับไปเล่นบนลีกสูงสุดให้ได้ โดยเฉพาะ ‘ช้างเผือก’ ที่เพิ่งร่วงลงมาจากศึกไทยลีก ในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยผลงานที่ไม่น่าประทับใจกับอันดับสุดท้ายของตาราง เก็บชัยชนะไปได้เพียง 4 นัดเท่านั้น ทำให้ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ต้องการกลับขึ้นไปแก้ตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการใช้ ชูศักดิ์ ศรีภูมิ เป็นเฮดโค้ช ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักกันดีกับแฟนบอลในลีกรอง ในฉายา ‘มิสเตอร์แชมเปี้ยนส์ลีก’ และเคยประสบความสำเร็จกับเชียงใหม่ ยูฯ มาแล้ว แต่ในการคุมทีมคำรบนี้ ‘โค้ชชู’ คือ คนที่เหมาะสมกับเป้าหมายเลื่อนชั้นกลับไปไทยลีกจริงๆหรือไม่? คำตอบถูกตอบหลังจากการแข่งขันผ่านไปเพียงแค่ 3 นัด ชูศักดิ์ ศรีภูมิ ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งโดยทันที
ผู้ที่เข้ามารับไม้ต่อ คือ กุนชือมากประสบการณ์ สมชาย ชวยบุญชุม ที่พาหลายทีมเลื่อนชั้นมาแล้ว แต่การเข้ามาคุมทีมของ ‘น้าฉ่วย’ ก็ไม่ได้ราบเรียบ เพราะผู้เล่นในทีมไม่ได้ถูกเลือกมาด้วยตัวเองเขา ทำให้นักเตะในทีมไม่ใช่คนที่ตรงสเปกของ โค้ชสมชาย เช่นต่างชาติที่มีความเร็วสูง ที่เป็นที่เด็ดของเฮดโค้ชรายนี้ตั้งแต่การคุม ศรีสะเกษ เอฟซี จนถึง ตราด เอฟซี แต่ตัวต่างชาติที่ escapeSingleQuotทัพช้างเผือกescapeSingleQuot มีคือ บิล โรซิม่า กับ เมลวิน เดอ ลูว์ ที่โดดเด่นด้วยการครองบอลและเก็บบอลไว้กับตัว แต่ความเร็วคือสิ่งที่ขาดหายไป ไปจนถึง ยูโตะ โอโนะ ที่เล่นบอลสั้น 1-2 กับเพื่อนได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สไตล์การเล่นของทีมกลับเป็นการโยนบอลยาวข้ามไลน์กองหลัง
แม้ว่าจะมีปัญหาต่างๆ มากมาย แต่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ก็อาศัยทั้งลูกเก๋ามาประสบการณ์ของโค้ช และนักฟุตบอลที่เล่นด้วยกันมาหลายฤดูกาล ประคองตัวให้ทีมเกาะอยู่ในกลุ่มหัวตาราง และลุ้นเลื่อนชั้นได้อย่างเต็มตัว หรือในบางสัปดาห์ก็มีโอกาสทำอันดับขยับขึ้นไปท้าชิงแชมป์ลีกเลยเช่นกัน
ทำให้หลังจากผ่านครึ่งฤดูกาลด้วยอันดับที่น่าพอใจ พร้อมกับการปรับทัพปล่อยผู้เล่นที่ไม่เข้ากับแผนการเล่น และดึงคนใหม่เข้ามา ทำให้เป้าหมายของทีมกลับมาโฟกัสและมีลุ้นมากขึ้น แต่ด้วยรูปแบบวิธีการเล่นที่ดูไม่เข้าตา ทำให้การนั่งดู เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ลงแข่งขันกลายเป็นเกมที่น่าเบื่อไปโดยปริยาย
จุดเปลี่ยนอีกครั้งก็เกิดขึ้นในเกมที่เจอกับ อุดรธานี เอฟซี บ๊วยของตารางที่สภาพทีมแย่ทั้งในและนอกสนาม แน่นอนเป้าหมายของทีมคือการเอาชนะและยิงให้มากที่สุด แต่กลายเป็น เชียงใหม่ ยูฯ บุกไปแพ้แบบเซอร์ไพรส์ 1-2 กลายเป็นการคุมทีมนัดสุดของ สมชาย ชวยบุญชุม
เฮดโค้ชคนที่ 3 ของทีมเป็นชาวบราซิล ที่ประสบความสำเร็จกับหลายทีมในระดับของประเทศไทย กับ วานเดอร์เลย์ จูเนียร์ ที่พา ลำพูน วอริเออร์ เลื่อนชั้นในฤดูกาลที่ผ่านมา และคุม นครศรี ยูไนเต็ด รั้งจ่าฝูงมาก่อนหน้านี้ แต่ก็เพิ่งโดย ‘มังกรแดนใต้’ ปลดออกจากทีมมาดๆ
การมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนถึง 3 คนในฤดูกาลเดียว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะเจอกันได้ง่ายๆ และสามารถพูดเป็นเสียงเดียวกันได้ว่า ทีมดังกล่าวประสบปัญหาอย่างหนักตลอดฤดูกาล แต่กับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในฤดูกาลนี้ อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเกมแรกที่ วานเดอร์เลย์ พวกเขาก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ นครปฐม ยูไนเต็ด 2-0
และนอกจากชัยชนะในสนามแล้ว รูปแบบการเล่น รวมไปถึงบรรยากาศในทีมไม่ว่าจะก่อน หรือหลังเกม เต็มไปด้วยบรรยากาศในแง่บวก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการเก็บ 3 แต้ม และพาทีมก้าวกลับขึ้นไปสู้ในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
แต่การแต่งตั้งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ กับระยะเวลาที่เหลือเพียง 7 นัด จะช่วยให้ทีมทำตามเป้าหมายได้หรือไม่ ต้องรอดูกันอีกครั้ง