ผลงานในเกมแดงเดือดทำให้แฟนบอลอย่างเราๆห่อเหี่ยวกันเกือบทั้งสัปดาห์ แต่ยังดีที่ในช่วงกลางสัปดาห์ มีเกมกับ เรอัล เบติส ที่ผลงานกลับมาดีและทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย

เอริก เทน ฮาก ไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่นเลยแม้แต่คนเดียว ในเกม ยูโรป้าลีก ซึ่งก็เดาไว้ว่า คงจะเป็นการให้เหล่าบรรดาตัวผู้เล่นที่หลุดฟอร์มไปในนัดก่อน ได้เรียกความมั่นใจกลับคืนมาให้เร็วที่สุด

ซึ่งมันได้ผลจริงๆ และในใจของผม คิดว่าเกมกลางสัปดาห์มันจะยากกว่านี้ซะอีก จากการที่เราเจอทีมจากสเปนในซีซั่นนี้มาแล้วถึง 2 ทีม ล้วนแล้วแต่เป็นงานยากทั้งนั้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กลับมาสะดุดเอาซะได้ จากเกมที่เจอ ‘บ๊วย’ อย่าง เซาแธมป์ตัน

ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น ลิเวอร์พูล ก็ ‘บ๊วยติดคอ’ ไปแล้วกับการแพ้ บอร์นมัธ เมื่อคืนวันเสาร์ และทำให้อันดับสุดท้ายของตารางคะแนนเปลี่ยนไป ซึ่งก็ทำให้ ‘นักบุญ’ หล่นไปอยู่อันดับล่างสุดในวันอาทิตย์

เชื่อว่าแฟนๆ ‘เร้ด เดวิลส์’ ทุกราย ไม่คิดหรอกว่าเกมนี้จะง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะคว้า 3 แต้มมาได้ และที่สำคัญไม่อยากทำตัวเป็น ‘โรบินฮู้ด’ คอยแจกแต้มให้กับทีมหนีตาย

แต่พอบอลเตะไปได้แค่ 30 นาทีเท่านั้นแหละ คาเซมิโร่ โดนใบแดงซะงั้น ใครจะว่าไงก็ได้ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่าจะถึงขั้นต้องไล่ออกจากสนาม ดูแล้วเป็นจังหวะที่เข้าถึงบอลก่อน และเท้าดัน ‘ฟอลโล่วทรู’ ไปเข้าที่แข้งของ อัลคาราซ 

ตอนแรกอีตากรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ควักใบเหลือง แต่พอไปดู VAR เดินกลับมา ควักใบแดงให้หน้าตาเฉย และที่สำคัญคนที่คุมห้อง VAR เป็น อังเดร มาร์ริเนอร์ คนที่ไล่ ‘คาเซ’ ออกจากสนามในนัดที่เจอกับ คริสตัล พาเลซ นั่นแหละครับ

และที่เซ็งที่สุดไม่ใช่การที่เก็บ 3 แต้มไม่ได้ แต่เป็นการที่มิดฟิลด์ตัวรับรายนี้ต้องโดนแบนถึง 4 เกม เพราะเป็นใบเหลืองที่ 2 ในซีซั่นนี้

อย่างน้อยในตอนนี้ก็รักษาตำแหน่งท็อปโฟร์ไว้ให้ได้จนจบฤดูกาลเป็นพอ จะไปหวังถึงแชมป์ลีกก็ดูจะเกินตัวไปหน่อย แต่ยังไงก็ขอจบให้อันดับเหนือกว่าพรี่ๆที่ชอบ ‘บ๊วยติดคอ’ ก็พอละกันครับ

เขียนโดย The Lite Team.