อย่างที่เราทราบกันดีว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมที่ประสบความสำเร็จมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และแทบจะนับครั้งได้กับการไร้ถ้วยรางวัลเมื่อจบฤดูกาล แต่สำหรับยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะครั้งสุดท้ายที่ ‘เรือใบ’ ต้องผิดหวังและปิดซีซั่นด้วยมือเปล่าคือฤดูกาล 2016-2017 คือปีที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจาก มานูเอล เปเญกรินี่ เป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีข่าวมากมายในช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา แต่มีเพียงข่าวเดียวที่บ่งบอกว่า แฟนบอลอาจจะต้องเผื่อใจสำหรับฤดูกาลนี้ คือการถ่ายเทนักเตะครั้งใหญ่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา เราจึงได้เห็นนักเตะกลุ่มเดิมหลายคนที่อยู่มานานมากกว่า 4 ฤดูกาล แต่หลังจบฤดูกาลนี้เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทีม

หากเรามองในรายละเอียดที่แสนเจ็บปวดของทีมตลอดฤดูกาลนี้ คือผลงานการชนะต่อเนื่องในพรีเมียร์ลีกที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้มากที่สุดคือ 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากสำหรับการคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะหากเรามองย้อนไปในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ‘เรือใบสังหาร’ สามารถคว้าชัยชนะต่อเนื่องได้อย่างน้อย 9-10 ครั้ง จนเป็นเรื่องปกติ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทีมอันดับหนึ่งของหัวตารางจะเป็น อาเซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า

แฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลายๆคนก็เริ่มออกมาตั้งคำถามถึงความกระหายของ เป๊ป ไม่ว่าจะเป็นการปรับแผนการเล่นใหม่ในฤดูกาลนี้ หรือการไม่เสริมทัพในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา แถมยังลดขนาดทีมด้วยการปล่อยผู้เล่นคนสำคัญอย่าง เจา คันเซโร่ และยังลามไปถึงคำถามที่มีต่อผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่าง เอแดซอน ว่าเขายังดีพอที่จะเฝ้าเสาให้กับทีมหรือไม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ กวาดิโอล่า ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้กับข้อสงสัยเหล่านี้ไปจนจบฤดูกาล  

ในที่สุดถ้า ‘เรือใบ’ สามารถสร้างปาฏิหาริย์โดยการคว้าถ้วยรางวัลสำคัญอย่าง พรีเมียร์ลีก หรือะ แชมป์เปี้ยนลีก ได้สำเร็จ  เชื่อได้เลยว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะถูกจารึกชื่อทั้งในระดับสโมสรฟุตบอลอังกฤษ และยุโรปได้อย่างหมดข้อสงสัย และเหล่าบรรดาแฟนบอลทั่วโลกที่เคยตั้งคำถามมากมายกับผู้ชายคนนี้จะหมดลงไปอย่างสิ้นเชิง…