5 อันดับนักเตะที่สร้างมูลค่าให้ตัวเองตอนปล่อยยืมมากที่สุด
การซื้อขายนักเตะของแต่ละสโมสรฟุตบอล เป็นหนึ่งในมนต์เสน่ห์ที่ทำให้แฟนลูกหนังหลงรัก
คุณจะต้องตามลุ้นว่า ทีมที่คุณเป็นกองเชียร์จะได้ตัวนักเตะในฝันหรือไม่? ในขณะที่บรรดาแข้งทองเงินล้านก็เฝ้ารอด้วยความหวังเรื่องการย้ายไปร่วมทีมวัยเด็ก ซึ่งในแต่ละตลาด การจับจ่ายเม็ดเงินกองเท่าภูเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำกันได้โดยง่าย เพราะกำลังทรัพย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้การยืมตัวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อย วันนี้ เราจะพามารู้จัก 5 อันดับนักเตะที่สร้างมูลค่าให้ตัวเองใน Loan Period หรือ ช่วงเวลาที่ปล่อยยืมตัวมากที่สุด
5. ไบรอัน กิล ซัลบาติเอร์ร่า (มูลค่าเพิ่ม 21 ล้านยูโร)
ปีกซ้ายชาวกระทิงดุ ผลผลิตจากอคาเดมี่ของ เซบีย่า จัดเป็นดาวเด่นในชุด เบ ของสโมสรที่ปลุกปั้นเขามา โดยอดีตเยาวชนจากพื้นที่แถบ คาตาลัน ได้รับลงโอกาสลงสนามทีมชุดใหญ่ไป 14 นัด ก่อนย้ายไปยืมตัว เลกาเนส ในปี 2020 และทำผลงานได้เข้าตา เออิบาร์ จนถูกดึงตัวไปลากเลื้อยสะบัดบ็อบ ยิงไป 4 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์ ให้กับ ‘ลอส อัลเมรอส’ จน ‘ไก่เดือยทอง’ เข้ามาติดต่อคว้าตัวไป
4. ติโบต์ คูร์กตัวส์ (มูลค่าเพิ่ม 21 ล้านยูโร)
นายทวารชาวเบลเยี่ยม จัดเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในยุคนี้ เขาย้ายจากดินแดนช็อกโกแลต สู่เมืองหลวงแห่งประเทศอังกฤษ ตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี ในฐานะตัวแทนระยะยาวของ ปีเตอร์ เช็ค ด้วยพรสวรรค์อีกระดับของเพชรเม็ดงามชิ้นนี้ เชลซี ปล่อยตัวเขาไปฝึกปรือกับ แอตแลนติโก้ มาดริด จนฉายแสงในระดับที่สามารถคว้าแชมป์ ลาลีก้า 2013/14 เหนือ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ได้อย่างพลิกความคาดหมาย เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในอาชีพของว่าที่มือกาวระดับตำนานรายนี้
3. เดยัน คูลูฟเซฟสกี้ (มูลค่าเพิ่ม 24 ล้านยูโร)
ปีกขวาตัวหลักในแผนของ อันโตนีโอ คอนเต้ จากค่าย ‘ไก่เดือยทอง’ ผู้มีสัญญายืมตัวราคาสูงถึง 10 ล้านยูโร แต่การประเมินมูลค่าของตัวเขาเองนั้น สูงขึ้นในสมัยที่ค้าแข้งกับ อตาลันต้า แล้วถูกปล่อยตัวไป ปาร์ม่า ต่างหาก เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งจน ‘ไอ้ม้าลาย’ ยูเวนตุส ขออนุญาตเซ็นเช็คและประทับตรายืนยันการย้ายทีม ก่อนปล่อยให้ ปาร์ม่า ใช้งานต่อ ผลิตสกอร์ 10 เม็ด พ่วงด้วย 9 แอสซิสต์ คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ เซเรีย อา มาครอบครอง
2. มาร์ติน โอเดการ์ด (มูลค่าเพิ่ม 30 ล้านยูโร)
กัปตันทีม ‘ปืนใหญ่’ ชุดปัจจุบัน มีโอกาสสร้างปาฏิหารย์และลบล้างอาถรรพ์ แชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 20 ปี ให้กับ อาร์เซน่อล เขาโด่งดังตั้งอายุเพียง 16 ปี ในฐานะสุดยอดวันเดอร์คิดที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ได้รับการทดสอบฝีเท้ากับ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงที่ ลีคนอร์เวย์ ปิดซีซั่นอยู่ แต่สุดท้ายเป็น ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ปาดหน้าคว้าตัวไปด้วยค่าตัวสูงถึง 35 ล้านยูโร (และอาจพุ่งไปกว่า 75 ล้านยูโร หากทำผลงานได้ดี)
เนื่องด้วย ‘ลอส บลังโกส’ เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์มากมาย เขาจึงไม่มีแม้แต่พื้นที่บนม้านั่งสำรอง ทำให้ต้องย้ายไปแบบยืมตัวกับ เรอัล โซเซียดาด นอกจากจะทำประตูใส่สโมสรแม่ตัวเองแล้ว ยังสร้างอิมแพ็คอย่างมหาศาล คว้ามาหมดแล้ว ทั้ง Man of the Match หรือ Player of the Month และเพื่ออนาคตของตัวเอง เขาจึงเลือกย้ายมาเป็นหัวสิงห์ที่กรุงลอนดอน จนกลายเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่เก่งที่สุดในเมืองผู้ดีจนถึงวันนี้
1. อัคราฟ ฮาคิมี่ (มูลค่าเพิ่ม 49 ล้านยูโร)
วิงแบ็คกราบขวาเบอร์หนึ่งแห่งยุค ฮาคิมี่ ขึ้นชื่อว่า เป็นแบ็คจอมบุกครบเครื่องต้มพะโล้ เขามีความเร็วจัดจ้าน ความแข็งแกร่งด้านร่างกาย ที่มาพร้อมกับเทคนิคการครอสบอลสุดแม่นยำ และด้วยความที่เคยเล่นปีกมาก่อนในชุดเยาวชนของ เรอัล มาดริด ทำให้แข้งชาวโมร็อกกันสามารถฝ่าดงนันยางไปได้ด้วยตัวเองอย่างไม่เคอะเขิน การย้ายไปยืมตัวกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2018 เป็นเหตุให้ อินเตอร์ มิลาน เลือกคว้าตัวเขาไปเสริมทัพ ก่อนถูกปล่อยต่ออีกทอดให้มหาเศรษฐี อย่าง ปารีส แซงต์ เฌอแม็ง ในราคา 60 ล้านยูโร (ไม่รวมแอดออนอีก 11 ล้านยูโร)
เห็นได้ชัดเลยว่า การยืมตัวเนี่ย ไม่ใช่แค่ส่งผลดีให้กับสโมสรอย่างเดียวนะครับ ครั้งหน้ามาพบกับงาน TOP 5 กันใหม่ จะเป็นเรื่องอะไร รอติดตามกันครับ.
เขียนโดย What The Fluke
The Lite Team.