ทั้งสองสโมสรอาจไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ด้านความสำเร็จ ซึ่ง ‘ปีศาจแดง’ เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งของเกาะอังกฤษ โดยเฉพาะในช่วงยุค 90 ถึงยุค Y2K ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่งทำหน้าเป็นหมีแพนด้าคุมทีมอยู่

ส่วน ‘ยูงทอง’ อาจจะมีช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จอยู่บ้างในอดีต แต่พวกเขาก็ตกชั้นไปเป็นเวลาเกือบ 20 ปี กว่าจะมีปัญญากลับขึ้นมาโชว์ฝีเท้าใน พรีเมียร์ลีก ได้อีกครั้ง แต่ความบาดหมางของทั้งสองแคว้นในอดีต ยังคงความเคียดแค้นมาถึงปัจจุบัน โดยมีสนามหญ้าสีเขียว มีประตูอยู่สองฝั่ง เป็นสังเวียนของสงคราม

โดยการดวลกันระหว่างสองทีม ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ก็ประหลาดเหมือนคนจัดคิวดมกาวไปสามกระป๋อง เมื่อกำหนดให้การแข่งขันนัดตกค้าง ซึ่งเลื่อนมาจากช่วงต้นฤดูกาล มาแข่งขันกันเมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา ก่อนที่จะลงเล่นตามโปรแกรมเดิมในค่ำคืนนี้

นั่นทำให้ ผู้เล่นของ แมนฯยู และ ลีดส์ คงจะเบื่อขี้หน้ากันไปข้าง เมื่อเจอกันถี่อย่างกับภรรยาข้างบ้าน 

ซึ่งกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกทีมของ เอริค เทน ฮาก เกือบจะเน่าคาบ้าน เมื่อเจอบอลเปลี่ยนโค้ชของฝั่งทีมเยือน ขึ้นนำไปก่อน 2-0 แต่ยังดีที่นาทีนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ จาร์ดอน ซานโช่ ช่วยกันทำประตูให้ทีมกลับมาคว้า 1 แต้มได้สำเร็จ

ปัญหาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ คือเมื่อไม่มี คาเซมิโร่ ยืนคุมเกมแดนกลาง พวกเขาก็ดูจะหมดพิษสงกลับไปเป็นทีมดาดๆทีมนึงเท่านั้น

แฟนบอล ‘ผีแดง’ คงต้องมารอเอาใจช่วยกันว่า คืนวันอาทิตย์นี้เวลา 21.00 น. ซึ่งทีมรักของพวกเขาจะต้องออกไปเยือนถิ่น เอลแลนด์โรด โดยที่มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ยังคงติดโทษแบนอยู่ จะดีพอในการคว้า 3 คะแนน เพื่อชดเฉย 2 คะแนน จากความผิดพลาดในเกมแรกได้หรือไม่

เขียนโดย The Lite Team.