ศึกของคนรวย! พรีเมียร์ลีก แหล่งรวมของอภิมหาเศรษฐี
วิกฤตการณ์โควิด 19 เมื่อช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 สร้างความปั่นป่วนให้กับเศรษฐกิจโลกไปมากโข แต่ถ้าถามว่ากระทบฟุตบอลหรือไม่…
ก็กระทบอยู่แหละ หลายสโมสรจำต้องรัดเข็มขัดกันอย่างเข้มงวด เพราะนอกจากจะขาดรายได้ในสนามแล้ว ยังต้องมาแบกรับภาระจ่ายค่าเหนื่อยบุคลากรภายในสโมสรอีก ลำพังแค่พนักงานทั่วไปก็คงจะไม่เหนื่อยอะไรมาก แต่กับนักเตะภายในทีมแล้วต้องเรียกว่า ‘ยับกันไปข้าง’
ทีมที่ดูจะแปรสภาพการเงินออกมาได้ดีที่สุดน่าจะเป็น เชลซี เพราะปีนั้น มีการถ่ายเลือดนักเตะอย่างมหาศาล ประกอบกับซีซั่น 2019-20 ถูกแบนจากตลาดนักเตะด้วย ทำให้พวกเขาไม่ได้ฟุ่มเฟือยมากอย่างที่คิด เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายแล้ว ก็แทบไม่ได้เบิกเงินจากกระทรวงการคลังของตัวเองเลย
ทีมอื่นที่ทำได้ดีเยี่ยมที่เหลือ ก็ล้วนเป็นทีมในเกาะอังกฤษทั้งหมด เพราะค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของเมืองผู้ดีนั้นสูงกว่าที่อื่น โทษฐานที่เป็น ‘ลีกที่เอ็นเตอร์เทนดีที่สุดในโลก’ ก็ไม่แปลกใจว่า ทำไมทีมตกชั้นของพรีเมียร์ลีก ยังได้เงินเยอะกว่าทีมแชมป์ลีกของประเทศอื่น
นั่นเปรียบเสมือนแมวยั่วสวาทให้บรรดานักธุรกิจหมื่นล้านหลายราย พยายามผลักดันตัวเองด้วยแรง 10 ตีนถีบ เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรกลุ่มนี้ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจเสียงกร่นด่าจากแฟนบอลอัลตร้าที่ไหน เพราะสุดท้ายแล้ว เงินก็สำคัญกว่าทุกสิ่งในสายตาพวกเขา
ล่าสุด กลุ่มราชวงศ์กาตาร์ ที่เป็นเจ้าของ ปารีส แซงต์ เฌอแม็ง เปิดเผยอย่างไปตรงมาถึงข้อเสนอขอซื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จาก ‘ราชันย์ปลิง’ เกลเซอร์ แม้องค์กรยูฟ่าจะออกกฎไม่ให้เป็นเจ้าของมากกว่าหนึ่งสโมสรในเวทียุโรป (เพื่อหลักเลี่ยงปัญหาการฉ้อโกง การซื้อขายใต้โต๊ะ และการพนัน) แต่พวกเขายืนยันความบริสุทธิ์ถึงทีมบริหารที่อยู่คนละส่วน เชื่อว่า สุดท้ายก็ได้รับการอนุมัติแหละครับ…เงินมันถึงจะทำอะไรก็ได้
ทีแรกเจอความรวยของ ‘เรือใบสีฟ้า’ ไม่พอ, ‘สิงห์บลู’ ก็มาได้ ‘เสี่ยท็อดด์’ กุมกะลาหัวอีก, สุลต่าน ‘ทูน อาร์มี่ส์’ ก็ไม่ได้มาเล่นๆและ ยูไนเต็ด กำลังจะพุ่งปรี๊ดกับ ATM ส่วนตัว
ต่อไปคงกลายเป็น ‘ศึกสี่จักพรรดิแบงค์เทา’ นี่พวกพี่กะไม่ให้ซูเปอร์สตาร์ไปลีกอื่นเลยใช่ไหมเนี่ย!?!
เขียนโดย What The Fluke
The Lite Team.