เพราะไม่ว่าจะเป็นกุนซือคนใดที่ได้ลงสีบนกระดาษผ้าเปล่าสีน้ำเงินนี้ สิ่งที่แสดงออกในสนามก็ยังมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของความเขี้ยว ไม่ว่าจะฟอร์มการเล่นแย่จากที่ไหนมา พอเจอทีมใหญ่ปุ๊ป ก็กลายร่างเป็น ‘สิงห์เคี้ยวยาก’ ทันที ด้วยเกมรับอันเหนียวแน่น คู่แข่งพลาดท่าเปิดช่องโหว่เมื่อไร นั่นหมายถึงการชะตาตัดสินแชมป์ลีกอาจพลิกเป็นอีกด้านโดยปริยาย

วันนี้ผมเลยจะมาเสนอ 5 สุดยอดปราการหลังตัวกลางที่พา ‘เดอะ บลูส์’ บินสูงมาตลอดเกือบสองทศวรรษครับ ไปดูกัน…

5. เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า

กัปตันทีมผู้คว้าแชมป์มาแล้วทุกอย่างกับสโมสร อาจถูกจดจำมากในฐานะฟูลแบ็ค แต่ในระบบการเล่นแนวรับสามคน บวกสองวิงแบ็ค อัซปิลิกวยต้า เป็นแกนหลักทางกราบขวา ด้วยสไตล์การเล่นวินัยรัดกุมและไล่กัดไม่ปล่อย ทำให้เขาสามารถเติมเต็มความแข็งแกร่งให้กับ เชลซี ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ‘ป๋าเดฟ’ ยังมีจุดเด่นที่การวางบอลยาวเพื่อทำเกมรุกจากด้านหลัง เพิ่มความหลากหลายในการเข้าทำ โดยเขาทำสถิติเป็นหนึ่งในกองหลังที่เปิดบอลเข้าเป้าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์คนหนึ่งของพรีเมียร์ลีก

4. อันโตนีโอ รูดิเกอร์

จอมกวนโอ๊ยแห่งทัพอินทรีเหล็ก ย้ายเข้าร่วมสโมสรในปี 2017 ในฐานะตัวหมุนเวียนของ แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์ และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เชื่อว่า ณ เวลานั้น แฟนบอลหลายคนคงไม่ได้คาดหวังให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักที่ขาดไม่ได้ เอาแค่ ‘พอดื่มแล้วลื่นคอ’ ก็ดีใจตายแล้ว ไปๆมาๆ หมอนี่ค้นพบสไตล์การเล่นในแบบฉบับของตนเอง กล่าวคือ ใช้ความเร็วในการวิ่งไล่กวด แล้วเข้าปะทะจังหวะ 50-50 ได้อย่างดุดัน จนแนวรุกคู่แข่งต้องผวา ส่งชื่อตัวเองติดทีมยอดเยี่ยมของ UEFA ในปีที่สามารถคว้าแชมป์ยุโรปหูใหญ่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

3. แกรี่ เคฮิลล์

ฉายา ‘ภูผา’ ไม่ได้มาจากการจับสลากได้ แกรี่ เคฮิลล์ เป็นกองหลังสไตล์อังกฤษโบราณ พูดน้อยแต่ต่อยหนัก แข็งแกร่งในการเล่นเกมรับไม่พอ ยังสามารถขึ้นไปโขกตู้มทำประตูยามทีมต้องการได้เช่นกัน จัดเป็นนักเตะที่อ่านเกมได้อย่างยอดเยี่ยมและประพฤติตัวดีจนได้รับปลอกแขนกัปตันทีมไปใส่ถาวร ซึ่งซีซั่นที่พีคที่สุดของเขา คือ 2014-15 ที่เข้าบอลแม่นยำเกือบทุกเม็ด มีช็อตความเว่อร์วังให้เห็นมากมายจนกลายเป็นเรื่องปกติในสายตาแฟนบอล

2. ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่

บางคนกล่าวว่า เขาอาจเป็นกองหลังที่ดีที่สุดตลอดกาลของ เชลซี ได้เลยด้วยซ้ำ หากไม่เจออาการบาดเจ็บรบกวนก่อนย้ายไป เรอัล มาดริด เขามีทุกอย่างที่กองหลังระดับโลกควรจะมี ทั้งทักษะการเล่นเกมรับ การอ่านเกมเหนือมนุษย์มนา การวางบอลราวจับวางจากพื้นที่ที่หนึ่ง และ Trademark ที่สุดของเขา คือ เล่ห์เหลี่ยมในสนาม 

ริคกี้ มักมีลูกตุกติก สร้างความรำคาญให้แนวรุกได้อยู่บ่อยครั้ง เกมจิตวิทยาของเขาทำให้การจับคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ นั้นลงตัวอย่างไม่เชื่อ นี่อาจการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของ โจเซ่ มูรินโญ่ ในปี 2004 ที่ได้ตัวเขามาในราคาเพียง 20 ล้านปอนด์ เท่านั้นเองครับ

1. จอห์น เทอร์รี่

13 ปี อย่าง จอห์น เทอร์รี่ ผู้ที่ถือว่าเป็น ‘พี่ใหญ่ของเหล่ากัปตันทีมชาติ’ ในยุครุ่งเรืองของ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ อุดมไปด้วยบรรดาผู้นำจากหลากหลายประเทศ แต่คนที่เป็น ‘หัวสิงห์’ ของเหล่าแม่ทัพอีกทีหนึ่งก็คือ ‘กัปตันเจที’ เนี่ยแหละ เทอร์รี่ อาจไม่ได้มีความเร็วเหมือนดั่งเช่นกองหลังชื่อดังทั้งหลาย แต่แลกมากับการสั่งการแผงหลังอีกระดับชั้น ความใจสู้บ้าเลือดกว่าใครในสนาม และความมุ่งมั่นที่จะเป็นแชมป์ในฐานะเด็กอคาเดมี่หนึ่งเดียวในช่วงมิลเลเนี่ยม เขาถูกยกให้เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวอังกฤษที่ดีที่สุดต่อจาก บ็อบบี้ มัวร์ ตำนานแชมป์โลกผู้ล่วงลับ แค่นี้ก็คงพอบอกได้แล้วว่า จอห์น เทอร์รี่ เก่งกาจขนาดไหน

เป็นอย่างไรบ้าง มีใครที่คุณถูกบ้างไหมครับ? ไว้รอบหน้าเราจะมาพูดถึงตำแหน่งอื่นกันต่อ ขอพระเจ้าคุ้มครองทุกท่านและครอบครัว สุขสันต์วันวาเลนไทน์.