ในนัดที่แล้ว ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ต้องเจอกับ เอฟเวอร์ตัน ที่เพิ่งแต่งตั้ง ฌอน ไดซ์ เข้ามาคุมทีมเป็นนัดแรก แล้วเจออาถรรพ์ ‘บอลเปลี่ยนโค้ช’ เข้าไป ทำ 3 แต้มลอยหลุดมือไปต่อหน้าต่อตา แต่ยังดีที่ แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงก็แพ้เช่นกัน เลยทำให้คะแนนยังไม่ถูกลดช่องว่างมา

มาพูดถึงคู่แข่งในนัดนี้กันบ้างดีกว่า นัดที่แล้วก็ให้มันแล้วกันไป ในค่ำคืนวันนี้ จ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก ต้องเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำศึก ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ต้อนรับลูกทีมของ โธมัส แฟรงค์ ซึ่งถือว่าทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม รั้งอยู่ที่อันดับ 7 ของตารางคะแนนในตอนนี้

นับตั้งแต่ที่ลีกกลับมาเตะกัน หลังจากที่จบจากฟุตบอลโลกเมื่อช่วงปลายปี ‘ผึ้งพิฆาต’ ยังไม่แพ้ให้กับทีมไหนในลีกเลย โดยชนะไป 4 จาก 6 นัด ที่ลงเล่น และ 1 ในนั้นเป็นการถล่มทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ไปด้วยสกอร์ 3-1 พร้อมสถิติสวยหรู 3 นัดหลังสุดที่ลงเล่น ไม่มีเสียแม้แต่ประตูเดียวเลย

เกมรุกของทีมก็น่าสนใจเช่นกัน ทาง ไอแวน โทนี่ย์ ซัดไปแล้ว 13 ประตูในลีก เป็นรองเพียงแค่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ แฮรี่ เคน เท่านั้น แล้วในทีมก็มีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง เอ็มบูโม่ กับ วิสซ่า ที่เล่นเข้าขากันได้เป็นอย่างดี

ข้ามมาทางฟากของเจ้าถิ่นกันบ้าง พวกเขาเพิ่งแพ้มา 2 นัดติด นัดล่าสุดก็อย่างที่เกริ่นไปตอนต้น อีกนัดที่แพ้ให้กับ ‘เรือใบสีฟ้า’ ในเกม เอฟเอ คัพ และเป็นการแพ้ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0 เจาะประตูคู่แข่งไม่ได้เลย แต่ผลงานโดยรวมของทีมยังถือว่าไม่ได้แย่นัก ในลีกก็นำอยู่ 5 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าผู้ตาม 1 นัดอีกด้วย

เอาล่ะ ทีนี้ก็ต้องมารอดูกันว่า การที่ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ พลาดมาต่อเนื่อง จะส่งผลต่อความมั่นใจของทีมหรือไม่ รวมถึงการที่ทีมต้องใช้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เป็นศูนย์หน้าคนเดียวในระยะยาวจะไหวจริงๆหรอ

ถ้าในนัดนี้พวกเขาเกิดพลาดสะดุดขึ้นมาจริงๆล่ะก็ ทีมอาจจะเกิดอาการ ‘แผ่ว’ อย่างที่เคยเป็นมาแล้วในหลายๆฤดูกาลที่ผ่านมาก็ได้ และทำให้การลุ้นแชมป์ลีกของพวกเขาต้องเสียเหงื่อหนักกว่าเดิม