"The Twelfth Man" เสน่ห์ของการดูบอลติดขอบสนาม
เวลาที่เรานั่งดูฟุตบอลทางทีวีอยู่บ้าน นั่นก็ว่าสนุกแล้ว พอได้มาดูในสนามจริงก็สนุกมากขึ้นไปอีก
และถ้ายิ่งได้อยู่ในบรรยากาศของการแข่งขันฟุตบอลแมตช์ใหญ่ๆ ทีมดังระดับโลก ผู้เล่นระดับสตาร์ เป็นทีมที่เราชอบ ก็ยิ่งสนุกเป็นทวีคูณ การชมกีฬาแบบติดขอบสนาม จึงเป็นความบันเทิงแบบที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ แม้ว่าการถ่ายทอดสด ภาพจะชัดแจ๋ว มีผู้บรรยายคอยเค้นอารมณ์ในจังหวะบีบคั้น แถมยังได้นอนดูอยู่บ้านแบบสบายๆ ไม่เกรงใจใคร แต่แฟนบอลส่วนใหญ่ ก็ยังคงต้องการไปดูในสนามอยู่ดี
ในอังกฤษ วัฒนธรรมการดูฟุตบอลแบบติดขอบสนาม เป็นสิ่งที่แฟนบอลทำสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น ครอบครัวไหน มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตไหน ถ้าละแวกนั้นมีทีมฟุตบอลท้องถิ่น พวกเขาก็จะพากันไปเชียร์ไปดู ให้กำลังใจคนบ้านเดียวกันเสมอ มีลูก มีหลาน ก็จะส่งให้ไปฝึกซ้อมด้วย เผื่อว่าวันหนึ่ง ลูกหลานอาจจะได้ขึ้นไปเล่นในระดับสูงๆกับเขาบ้าง ดังนั้น การไปดูบอลข้างสนามจึงเป็นเสมือนการส่งต่อความรัก ความหวัง ให้กับนักฟุตบอล ทำให้รู้สึกมีขวัญกำลังใจ รู้ว่ามีคนที่คอยอยู่เคียงข้าง ศัพท์ฟุตบอล มักจะเรียกแฟนบอลอย่างให้เกียรติว่า “The Twelfth Man” หรือ นักเตะคนที่สิบสอง ผู้เล่นคนสำคัญ ที่คอยช่วยเล่นอยู่ข้างสนามนั่นเอง
บรรยากาศการชมฟุตบอลในสนามแข่งขัน จึงเต็มไปด้วยความหวัง และพลังอย่างล้นเหลือ ไม่มีครั้งไหนเลย ที่แฟนบอลจะตามไปดูการแข่งขันแบบหงอยๆ เนือยๆ เซ็งๆ ต่อให้ทีมของพวกเขาจะเป็นรองอยู่มาก โอกาสชนะแทบไม่เห็น แต่แฟนบอลจะไม่เคยทำให้บรรยากาศในวันนั้นหม่นหมอง พวกเขาจะเติมสีสันให้วันนั้นเป็นวันที่มีความสุข สนุกสนาน ไม่ว่าจะด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อชุดแข่ง เขียนหน้าเขียนตาเป็นสัญลักษณ์ หรือคำขวัญของทีม ร้องเพลงปลุกใจอย่างสนุกสนาน พากันโห่ร้องเรียกขวัญกำลังใจไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่ตอนที่มารอรับตั๋วก่อนเข้าชมในสนาม กระทั่งเกมจบ อาการคลั่งฟุตบอลก็ยังไม่หาย ทุกๆเกม ก็มักจะเป็นอยู่อย่างนี้
เสียงตะโกนเชียร์นักเตะในสนาม เสียงเพลงเชียร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วทิศ พร้อมอุปกรณ์การเชียร์บอล ไม่ว่าจะเป็นการชูผ้าพันคอทีมรัก การตีกลองให้จังหวะประกอบเพลง บางที่มีแจก clapper หรือ กระดาษแข็งที่พับทบกันเหมือนพัด แล้วเอามาใช้ตบแทนเสียงปรบมือ บางทีมก็ถือธงสะบัดไปทั่วทั้งสนาม และบางทีมก็มีดอกไม้ไฟ จุดกันจนควันขโมง คล้ายกับจลาจลขนาดย่อม แฟนบอลย้อมใจก่อนการแข่งด้วย เบียร์สักแก้วสองแก้ว บรรเทาความหนาว พักครึ่งก็ลงมาที่โถงโรงอาหารเพื่อหาอะไรรองท้องเอาแรง
อาหารที่นิยมรับประทานระหว่างชมการแข่งขันในอังกฤษ คือ พายไส้หมู (Pork Pie) หรือ พายไส้กรอกเนื้อ (Sausage Roll) พร้อมกระดกเบียร์แก้วยักษ์ หรือไม่ก็ เหล้าเอล (Ale) ต่ออีกสักหน่อย ส่วนแฟนรุ่นจิ๋ว ของโปรดเรียกรอยยิ้ม คือเครื่องดื่ม ช็อกโกแลตร้อน (Hot Chocolate Drink) ที่เติมวิปครีมพูนๆ และมาร์ชเมลโล่วแสนหวาน เท่านี้ แฟนตัวน้อยก็ไม่งอแง พร้อมขึ้นไปส่งเสียงเชียร์ต่อจนจบเกม
นอกจากนี้ ดูบอลในสนามทำให้มีโอกาสพบปะกับผู้คนมากมายที่เป็นคอบอลเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลทีมเดียวกัน คุยกันถูกคอ หรืออาจเป็นมิตรภาพข้ามแดน ขิงกันจนสนิทสนมกันไปก็มี แฟนของทีมตรงข้ามที่มาเชียร์ก็เป็นอีกสีสันหนึ่งที่ทำให้การแข่งขันดุเดือด บางเกม แม้ว่าในสนามอาจไม่มีความคืบหน้า บอลยังไม่ได้ไม่เสีย แต่กลุ่มแฟนทีมเหย้าทีมเยือน เริ่มปะทะกันด้วยเพลงเชียร์ ตะโกนข่มขวัญยกใหญ่ เป็นการแสดงออกได้อย่างเต็มที่ในสนาม แต่ยังอยู่ในขอบเขตของความปลอดภัยเป็นหลัก
แม้บางวันอากาศก็หนาวเย็น หิมะโปรยปราย ฝนเทลงมาอย่างหนัก แต่แฟนบอลก็ไม่เคยละความพยายามที่จะตามมาเชียร์ในสนาม หรือ ไปแข่งนอกบ้านในที่ไกลแสนไกล ก็ไม่เคยหวั่น นี่คือสปิริตของแฟนบอลที่เป็นตัวขับเคลื่อน ให้ทีมฟุตบอลต่อสู้ เพื่อที่จะทำให้แฟนบอลมีความสุข เอาชัยชนะมาให้ได้ ทุกเกมที่แข่งขัน จึงจะต้องมีทั้งนักฟุตบอล และกองเชียร์เช่นนี้เรื่อยมา ขาดกันไปก็เหมือนขาดใจ
ในช่วงที่มีโควิด การแข่งขันในสนามถูกห้ามมิให้มีผู้ชม ในช่วงเวลานั้น นักฟุตบอลทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะลงแข่ง รู้สึกว่าขาดสิ่งที่สำคัญไป จนเมื่อเหตุการณ์ดีขึ้น เริ่มเปิดให้มีผู้ชมเข้ามาดูได้ ก็เหมือนชุบชีวิตให้การแข่งขัน กลับมามีสีสันอีกครั้ง นี่คือความผูกพันของเกมกีฬา ที่ทำให้เสน่ห์ของการแข่งขันในสนาม ยังมีมนต์ขลังอยู่เช่นนี้เรื่อยไป
เขียนโดย Saito Hajime.
The Lite Team.